ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.17/19 แนวโน้มยังแข็งค่า หลังคลายกังวลจากผล Brexit

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 30, 2016 09:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.17/19 บาท/ดอลลาร์ ใกล้ เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.18/20 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทมีแนวโน้มไปในทิศทางแข็งค่า หลังจากที่ทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ตลอดจนดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์และ ดัชนีตลาดหุ้นนิเคอิปรับตัวเป็นบวก ซึ่งน่าจะเป็นการรีบาวน์ขึ้นภายหลังจากกรณีของ Brexit ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.10-35.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.61/65 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 102.50 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1107/1112 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 1.1072 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2450 บาท/
ดอลลาร์
  • รัฐเดินเครื่องยุทธศาสตร์อีเพย์เมนท์ ขีดเส้นหน่วยงานราชการ-รัฐวิสาหกิจรับจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แจก
เงินรางวัลจูงใจประชาชน-ร้านค้าลงทะเบียนใช้พร้อมเพย์ จัดวงเงิน 7 ล้านบาทต่อเดือน รางวัลใหญ่สุดอีมันนี่ 1 ล้านบาท
  • กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มองภาวะตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มผันผวน
มากกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากความไม่แน่นอนของปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เช่น กรณี Brexit ที่ต้องติดตามความคืบหน้ากับ
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับอังกฤษและประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการลง
ประชามติร่างรัฐธรรมนูญของไทยที่สะท้อนสถานการณ์การเมืองในประเทศ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนคลายเงินทุนไหลออกให้ไปลงทุนในต่างประเทศสะดวกและสมดุลกับภาวะ
เงินทุนไหลเข้าในระยะต่อไป โดยอนุญาตให้บุคคลไทยและนิติบุคคลไทยที่มีเงินฝาก หรือมีเงินลงทุนในตราสารและอนุพันธ์ รวมตั้งแต่
100 ล้านบาทขึ้นไป ส่งเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินปีละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อราย (ประมาณ 175-176 ล้านบาท)
ตั้งแต่นที่ 20 ก.ค.นี้
  • บริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดมุมมองเครดิตของสถาบันการเงิน 8 แห่ง ในอังกฤษ อาทิ ธนาคารบาร์
เคลย์สและเอชเอสบีซีจากมุมมองมีเสถียรภาพลงเป็นเชิงลบ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลว่าการออกจากการเป็น
สมาชิกสภาพยุโรป (อียู) ของสหราชอาณาจักรที่นำโดยอังกฤษจะส่งผลต่อการทำธุรกรรมของสถาบันการเงินเหล่านี้ และกระทบต่อ
การทำกำไรของธุรกิจสถาบันการเงินในที่สุด
  • เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากนักลง
ทุนกลับมาซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่นเงินปอนด์ ในขณะความต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มลดน้อยลง

ทั้งนี้ เงินปอนด์ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า ธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อ รับมือกับผลกระทบจากปัจจัย Brexit โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เฟดพร้อมที่จะอัดฉีดดอลลาร์เพื่อ เสริมสภาพคล่องในตลาด หลังจากอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป

  • รัฐบาลญี่ปุ่น และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการทุกๆด้านเพื่อจำกัดผลกระทบ
ของ Brexit ส่วนประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เรียกร้องให้ธนาคารกลางทั่วโลกกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากภาวะ
อ่อนแอ
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% เมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) หลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบ
รายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าคาดไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับ
ผลกระทบของการที่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ หรือ 4.2% ปิดที่ 49.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 50.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • กระทรวงพาณิชย์ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ร่วงลง 2.3% จากเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น

0.5% ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์ในเดือนพ.ค. ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความซบ

เซาของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดยตัวเลขการผลิตที่อ่อนแอได้เพิ่มความกังวลว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

กำลังจะกลับมาชะงักอีก หลังจากที่เพิ่งกลับมาขยายตัวได้ในไตรมาสแรกปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ