นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยสภาวะธุรกิจประกันภัยช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.59) มีอัตราการเติบโตในแดนบวก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทย
โดยไตรมาสแรกมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 192,999 ล้านบาท ขยายตัว 4.54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศอยู่ที่ 7.64% เป็นผลจากเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1/2559 ขยายตัวได้ดีที่ 3.2% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4/58 ที่ขยายตัว 2.8% จากการขยายตัวทั้งในด้านการผลิต และด้านการใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอุปโภคบริโภคของทั้งภาครัฐ และเอกชน การลงทุน รวมถึงการส่งออกก็ล้วนแล้วแต่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
โดยภาคธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรวมในไตรมาสแรกของปี 2559 จำนวน 140,340 ล้านบาท ขยายตัว 6.06% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับสูงสุด ได้แก่ การประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 102,536 ล้านบาท หดตัว 9.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็นประเภทกลุ่ม จำนวน 10,959 ล้านบาท หดตัว 32.31% ตามด้วยประเภทอุตสาหกรรม จำนวน 1,702 ล้านบาท หดตัว 7.31% และประเภทอุบัติเหตุ จำนวน 1,289 ล้านบาท ลดลง 6.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงมีเบี้ยประกันภัยรับจากสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ จำนวนทั้งสิ้น 16,212 ล้านบาท เติบโตในอัตราเร่งที่ 58.89% สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น
ขณะที่ภาคธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 52,659 ล้านบาท เติบโต 0.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด ได้แก่ การประกันภัยรถ จำนวน 30,944 ล้านบาท ขยายตัว 1.67% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยจากการประกันภัยรถภาคบังคับ จำนวน 4,311 ล้านบาท ขยายตัว 2.24% และจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ 26,633 ล้านบาท ขยายตัว 1.57% รองลงมาคือ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 17,909 ล้านบาท ขยายตัว 0.44% ตามด้วยการประกันอัคคีภัย จำนวน 2,357 ล้านบาท หดตัวลดลง 8.81% และการประกันภัยทางทะเลและขนส่ง จำนวน 1,449 ล้านบาท ขยายตัว 0.20%
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 ธุรกิจประกันภัยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,993,369 ล้านบาท ขยายตัว 5.02% เป็นสินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น จำนวน 2,677,412 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.197% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นสินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 2,364,724 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 93.51% ของสินทรัพย์รวมธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งสินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงิน หุ้นกู้ มีจำนวนสูงสุดที่ 1,973,856 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 83.47% ของสินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันชีวิต ขยายตัว 7.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเงินฝาก 48,294 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.04% ซึ่งหากพิจารณาอัตราส่วนความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยของธุรกิจประกันชีวิต ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 อยู่ที่ 128.92% แสดงให้เห็นว่าธุรกิจประกันชีวิตมีความมั่นคงและมีสินทรัพย์ลงทุนเพียงพอต่อหนี้สินผู้เอาประกันภัย
ด้านสินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวน 312,688 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 67.33% ของสินทรัพย์รวมธุรกิจประกันวินาศภัย ทั้งนี้สินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยลงทุนในเงินฝากธนาคารสูงสุดจำนวน 104,522 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 33.43% ลดลง 1.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลงทุนในพันธบัตร ตั๋วเงิน หุ้นกู้ จำนวน 93,949 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30.05% โดยเมื่อพิจารณาเงินสดและสินทรัพย์สภาพคล่องของธุรกิจประกันวินาศภัย พบว่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 มีสินทรัพย์สภาพคล่องรวมทั้งสิ้น 309,649 ล้านบาท ขยายตัว 6.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. ได้ร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน บริษัทประกันภัย-ชีวิตทุกบริษัท และเครือข่ายพันธมิตรของสำนักงาน คปภ. จัดงานสัปดาห์ประกันภัยประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นให้ภาคธุรกิจประกันภัยเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี รวมทั้งยังเป็นเวทีที่จะทำให้ประชาชนคนไทยในทุกระดับสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยในราคาถูกที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพอีกด้วย