นายวีระพล จิรประดิษฐกุล หนึ่งในกกพ. และโฆษก กกพ. กล่าวว่า การเปิดรับยื่นข้อเสนอดังกล่าวมีผู้ประกอบการสนใจยื่นข้อเสนอเข้ามาทั้งสิ้น 108 โครงการ แต่เนื่องจากมีเอกสารไม่ครบ 19 โครงการ ทำให้คงเหลือยอดทั้งหมด 89 โครงการ คิดเป็นปริมาณกำลังการผลิตติดตั้งรวม 593.50 เมกะวัตต์ โดยหลังจากปิดรับยื่นข้อเสนอแล้วกกพ. จะทำการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและประเมินข้อเสนอด้านเทคนิคของผู้ยื่น ก่อนจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคภายในวันที่ 22 ก.ค.59
สำหรับวิธีการประเมินและคัดเลือกคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้านั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ การประเมินคุณสมบัติรวมทั้งข้อเสนอด้านเทคนิค และการเมินข้อเสนอด้านราคา ซึ่งผู้ยื่นต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น เช่น เป็นโครงการที่ยังไม่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไม่เป็นโครงการที่พัฒนามาจากโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าเดิมที่ได้ดำเนินการไปแล้วไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น
ควบคู่กับข้อเสนอด้านเทคนิคที่ได้ยื่นมาต้องอยู่เกณฑ์การประเมินที่ได้กำหนดไว้ในแนบท้ายประกาศนั้นให้ครบถ้วน ซึ่งมีเกณฑ์การพิจารณา ได้แก่ ความครบถ้วนของข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ จุดเชื่อมโยงกับระบบจำหน่ายไฟฟ้า ความพร้อมด้านเชื้อเพลิง ด้านที่ดิน ด้านเทคโนโลยี และแหล่งเงินทุนโครงการ ซึ่งหากคุณสมบัติของผู้ยื่นไม่เป็นไปตามที่กำหนดในประกาศ ผู้ยื่นรายนั้นจะไม่ได้รับการประเมินในขั้นตอนต่อไป
"กกพ. จะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติและข้อเสนอด้านเทคนิคภายในวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. www.erc.or.th แล้วจึงเริ่มการคัดเลือกในขั้นตอนที่ 2 คือ การพิจารณาข้อเสนอด้านราคา และจะประกาศผลรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกภายในวันที่ 11 สิงหาคม 2559 และให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการไปดำเนินการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. ภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2559 เพื่อสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ทันภายในเดือนธันวาคม 2561"นายวีระพล กล่าว
แหล่งข่าวจากกกพ. กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การเปิดให้ยื่นข้อเสนอโครงการดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 15-30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยการปิดรับข้อเสนอเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ปรากฎว่ามีผู้สนใจเข้ามายื่นข้อเสนอจำนวนมาก
"เมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ปิดรับข้อเสนอปรากฎว่ามากันเยอะมากทำให้ยอดผู้มายื่นรวมน่าจะ 100 กว่าราย ถ้ารายละ 5 เมกะวัตต์ ก็ 500 เมกะวัตต์แล้ว ขณะที่เราซื้อเพียง 36 เมกะวัตต์ แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่สูงมาก"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาทางด้านเทคนิค จะพิจารณาทั้งในส่วนของที่ดิน ,สายส่งรองรับ,เทคโนโลยี ,เชื้อเพลิง ,การสนับสนุนจากสถาบันการเงิน เป็นต้น ส่วนการพิจารณาเปิดซองราคานั้น จะใช้วิธีการเรียงลำดับราคา โดยเรียงลำดับผู้ยื่นที่เสนออัตราส่วนลดเป็นร้อยละของราคารับซื้อไฟฟ้าในส่วนของอัตรา FiT ในส่วนคงที่ (FiTF) มากที่สุดก่อน และหากในกรณีที่มีผู้ยื่นเสนออัตราส่วนลดเท่ากัน ผู้ที่ยื่นก่อนจะมีสิทธิได้รับการพิจารณาคัดเลือกก่อน
ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. ออกประกาศเรื่องการยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้าสำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์) ในแบบ Feed-in Tariff (ประเภทชีวมวล) พ.ศ.2559 (ระยะที่ 1 สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส) และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภสะบ้าย้อย และอำเภอนาทวี))
โดยกฟภ. เปิดรับตรวจสอบจุดเชื่อมโยงระบบโครงข่ายไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 10-31 พ.ค.59 พบว่ามีผู้สนใจมาตรวจสอบจุดเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าราว 290 โครงการ กำลังผลิตไฟฟ้ารวมสูงถึง 1,800 เมกะวัตต์ ขณะที่หลังการปิดรับยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้าแล้ว กกพ.จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการประเมินคุณสมบัติและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค วันที่ 22 ก.ค.59 ,เปิดซองข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านราคา วันที่ 8 ส.ค.59 และประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือก วันที่ 11 ส.ค.59 ขณะที่กฟภ.และผู้ที่ได้รับคัดเลือกลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ภายในวันที่ 9 ธ.ค.59
ทั้งนี้ การรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในแบบ FiT ดังกล่าวมีทั้งหมด 2 ระยะ โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายในวันที่ 31 ธ.ค.61 หลังจากรับซื้อในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นระยะที่ 1 แล้วเสร็จ ก็จะเปิดรับซื้อในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการรับซื้อไฟฟ้าจากพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป
อนึ่ง เบื้องต้นพบว่ามีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายแห่งได้แสดงความสนใจเข้าร่วมเสนอขายไฟฟ้าตามโครงการดังกล่าว ได้แก่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) ,บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ,บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง (TPCH) ,บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) ,บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ,บมจ.เฟอร์รั่ม (FER) ,บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) ,บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เป็นต้น