(เพิ่มเติม) ดัชนีเชื่อมั่นทองคำ ก.ค.ยังสูงขึ้นต่อเนื่องรับปัจจัยหนุนบาทอ่อน-แรงซื้อเก็งกำไร ลุ้นปีนี้แตะ 24,000

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 6, 2016 12:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทองคำในเดือน ก.ค.59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 7.77 จุด หรือเพิ่มขึ้น 12.83% อยู่ที่ระดับ 68.34 จุด สูงกว่าระดับ 50 จุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกันทั้งนักลงทุนและกลุ่มผู้ค้า โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากค่าเงินบาทที่ยังมีทิศทางอ่อนค่าและแรงซื้อเก็งกำไรที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัจจัยลบจากทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่า

ทั้งนี้ จากแบบสอบถามเรื่องความต้องการซื้อทองคำในช่วง 1 เดือนข้างหน้าพบว่าสัดส่วนผู้ที่คิดจะซื้อทองคำในช่วงเดือน ก.ค.59 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 41.03% ขณะที่สัดส่วนผู้ที่ไม่คิดจะซื้อทองคำในเดือนนี้เพิ่มขึ้นมาที่ 30.40% ของกลุ่มตัวอย่าง เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะ 3 เดือนข้างหน้าที่ยังสะท้อนมุมมองเชิงบวก จากการปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.86 จุดมาอยู่ที่ระดับ 62.21 จุด

สำหรับบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 6 ตัวอย่าง มองว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะมีกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,340-1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,200-1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

ราคาทองคำในประเทศเดือน ก.ค.59 จะยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยแบ่งเป็นผู้ค้า 4 รายมองราคาเฉลี่ยทองคำในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือมองราคาทองเฉลี่ยใกล้เคียงกับเดือนมิถุนายน โดยกลุ่มตัวอย่างคาดว่าราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%)ให้ราคาสูงสุดที่ 22,000-24,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 20,000-22,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

ขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัยทองคำยังได้จัดทำแบบสำรวจกรอบราคาทองคำในช่วงครึ่งหลังของปี 59 จากผู้ประกอบการรายใหญ่และตัวแทนซื้อขายอนุพันธ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับทองคำ 6 รายพบว่า ราคาทองคำในตลาดโลกเฉลี่ยครึ่งหลังอยู่ที่ประมาณ 1,314 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ค่าเฉลี่ยสูงสุด 1,498 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ค่าเฉลี่ยต่ำสุด 1,183 ดอลลาร์-สหรัฐฯ ต่อออนซ์ กรอบค่าเงินบาท ค่าเฉลี่ยครึ่งปีหลัง 35.38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าเฉลี่ยสูงสุด 36.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าเฉลี่ยต่ำสุด 34.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วนราคาทองคำในประเทศค่าเฉลี่ยราคาครึ่งหลังปี 59 เท่ากับ 22,313 บาทต่อบาททองคำ ค่าเฉลี่ยสูงสุด 24,242 บาทต่อบาททองคำ ค่าเฉลี่ยต่ำสุด 20,383 บาทต่อบาททองคำ

นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยทองคำยังเก็บข้อมูลต้นทุนหน้าเหมืองจาก 9 บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ในปี 58 เพื่อดูแนวโน้มต้นทุนหน้าเหมืองพบว่า ในช่วงปี 58 ต้นทุนรวมในการประกอบธุรกิจเหมืองทองลดลงมาอยู่ที่ระดับ 868.58 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ จากต้นทุนรวม (All-In Sustaining Cost) เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในปี 57 ที่อยู่ประมาณ 959 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เช่นเดียวต้นทุนเฉพาะการผลิตทองคำ (Cash Cost) เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักปรับลดลงเล็กน้อยจาก 676.49 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ในปี 57 มาอยู่ที่ระดับ 631 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ในปี 58 สะท้อนถึงความพยายามปรับตัวของเหมืองทองคำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มราคาทองคำที่เป็นเชิงลบอีกด้วย

นายพิบูลย์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ราคาทองคำในปีนี้มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 24,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลผลกระทบของการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่อาจเริ่มก่อตัวขึ้นและอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของอังกฤษและเศรษฐกิจทั่วโลก

"ทั้ง 2 ปัจจัยหลักนี้ทำให้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมีมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ"

นอกจากนี้ ความต้องการในทองคำที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมากองทุน SPRD มีการเข้าซื้อสะสมทองคำกว่า 70 ตัน แสดงได้ถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลังมองราคาต่ำสุดที่ 20,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และราคาสูงสุดที่ 24,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ บนกรอบค่าเงินบาทที่ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกในช่วงครึ่งปีหลังคาดราคาต่ำสุดที่ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ และราคาสูงสุดที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

"เรามองว่าปีนี้ราคาอาจจะขึ้นไปถึง 24,000 บาทได้ หลังจากมีความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน และเศรษฐกิจทั่วโลก หลังอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ในส่วนของการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯนั้นส่วนตัวเชื่อว่าจะยังไม่ปรับขึ้นเร็วๆ นี้ แต่ทุกอย่างก็มีโอกาสเป็นไปได้เพราะก่อนหน้านี้ผมก็มองว่าอังกฤษจะไม่ออกจากสหภาพยุโรป แต่ก็ผิดคาดไป จึงแนะนำว่าช่วงนี้ให้มีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น"นายพิบูลย์ฤทธิ์ กล่าว

ด้านคำแนะนำในการลงทุนทองคำ คือยังแนะรอ หากราคาทองคำปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 22,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ เป็นโอกาสทยอยสะสมได้ เนื่องจากราคาทองคำก่อนหน้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอย่างมาก โดยช่วงต้นปีราคาทองคำอยู่ที่ 18,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ แต่ขณะนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาใกล้ระดับราคาที่ 23,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ ซึ่งถือว่าเหนือความคาดหมายทำให้ราคาทองคำอาจจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ราคาพื้นฐานอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ