ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.92 ทิศทางยังแข็งค่าต่อเนื่องจากเงินทุนไหลเข้า คาดกรอบสัปดาห์หน้า 34.80-35.20

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 22, 2016 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 34.92 บาท/ดอลลาร์ จากเปิด ตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 34.97 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-34.97 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มแข็งค่า ต่อเนื่องจากทิศทางการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศมาในตลาดหุ้นยังคงมีต่อเนื่อง

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ระหว่าง 34.80-35.20 บาท/ดอลลาร์

"บาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง โดยสัปดาห์หน้าตลาดรอดูการประชุมเฟดและบีโอเจ" นักบริหารเงิน กล่าว

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 106.05 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.54 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1022 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1017 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,509.13 จุด เพิ่มขึ้น 6.43 จุด, +0.43% มูลค่าการซื้อขาย 53,367.92 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,037.38 ล้านบาท(SET+MAI)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม
ประจำปีของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการจัดทำแผนฯ ฉบับที่ 12 (2560-2564) ที่จะ
ประกาศใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพื่อใช้เป็นตัวขับเคลื่อนประเทศในระยะ 5 ปีข้างหน้า
  • นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการนำ 11 บริษัทจด
ทะเบียนของไทยเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนในสหรัฐฯ “SET US Roadshow: Thailand Conference 2016" ว่า นักลงทุน
ต่างชาติยังมั่นใจในตลาดหุ้นไทยว่ามีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยและผลการดำเนิน
งานของบริษัทจดทะเบียน โดยไม่ได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองของไทย
  • นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้กล่าวปาฐกถาที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ โดย
ระบุว่าการที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก
พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือกันใช้มาตรการยุติความไม่แน่นอนที่เป็นผลมาจาก Brexit
  • นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เปิดเผยในการประชุมนอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ในวันนี้ว่า ประเทศจีน
เพียงรายเดียวไม่สามารถแบกรับปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งโลกได้ แม้ว่าจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของ
โลก แต่จีนพร้อมที่จะเข้ามาช่วยรักษาเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจโลก

นายกฯจีน ระบุว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกนั้นมากเกินกว่าที่จีนจะสามารถรับมือได้ เนื่องจากจีนยังคงเป็น ประเทศกำลังพัฒนา อีกทั้งยังต้องเผชิญกับแรงกดดันช่วงขาลงในระยะยาวด้วย พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกหานโยบายกระตุ้น เศรษฐกิจ เหมือนกับที่จีนกำลังใช้อยู่ทุกวันนี้

  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) รายงานว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์จีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นเดือนมิ.ย. สถาบันการเงินของจีนได้อนุมัติเงินกู้มูลค่า 23.94
ล้านล้านหยวน (3.6 ล้านล้านดอลลาร์สรัฐ) ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบรายปี สำหรับยอด
เงินกู้ค้างชำระของภาคอสังหาริมทรัพย์ ณ สิ้นสุดเดือนมิ.ย. มีอยู่ทั้งสิ้น 5.41 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่
ยอดเงินกู้ส่วนบุคคลปรับตัวสูงขึ้น 30.9 % แตะ 16.55 ล้านล้านหยวน
  • สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับยอด
ขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้นในปีงบฯ 2561 เนื่องจากรัฐบาลได้เลื่อนการปรับขึ้นภาษีการบริโภคจากเดือนเม.ย.ปีหน้า ไปเป็นเดือนต.
ค.ปี 2562
  • เงินปอนด์ดิ่งลง 0.88% สู่ระดับ 1.3115 ดอลลาร์ หลังการเปิดเผยผลสำรวจภาคการผลิตและภาคบริการของสห
ราชอาณาจักรบ่งชี้ถึงการขยายตัวที่อ่อนแอ และภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังการลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดย
ผลการสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ระดับ 49.1 ในเดือน
ก.ค. ซึ่งลดลงจาก 52.1 ในเดือนมิ.ย. โดยทำสถิติต่ำสุดในรอบ 41 เดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ