"สมคิด"เผยจะดูแลไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไป หลังมีเงินไหลเข้าปท.มากในช่วงนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 18, 2016 16:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "นโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0" โดยระบุว่า ได้มองเห็นโอกาสการลงทุนในไทยที่เพิ่มสูงขึ้น และเห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อม เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค และเชื่อว่าภูมิภาคเอเชียจะยิ่งมีความสำคัญหลังจากเกิดสถานการณ์ที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เนื่องจากเชื่อว่าความเจริญต่างๆ จะพุ่งเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชีย ซึ่งดูได้จากดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ขณะนี้ประเทศไทยยังมีความผันผวนทางการเมืองก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นของญี่ปุ่นเองก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน จนทำให้ทั้งไทยและญี่ปุ่นต่างมีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศ จนทำให้ทั้งค่าเงินบาทและค่าเงินเยนแข็งค่า

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่ารัฐบาลมีมาตรการที่ช่วยดูแลเพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากจนเกินไป ซึ่งเป็นการบ่งบอกให้เห็นว่าศักยภาพของไทยยังมีความพร้อม และไม่ควรจะมองเฉพาะเรื่องการแข่งขันทางการเมืองแต่เพียงอย่างเดียว แต่ควรจะหันกลับไปมองการพัฒนาความเข้มแข็งของประเทศด้วย

นอกจากนี้ หลังจากที่ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ก็ยิ่งได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นจากการที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่ต่างมองว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น

นายสมคิด กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาลอีกประมาณ 1 ปีนี้จากนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าในการสร้างพื้นฐานให้กับอุตสาหกรรมใหม่ๆ วางพื้นฐานในเรื่อง Start up และส่งเสริมให้ไทยเป็น Digital Hub ให้ได้

"จากวันนี้ไปข้างหน้า ถ้าคนไทยไม่เหยียบเท้ากันเอง การลงทุนที่จะมาในประเทศไทยจะพุ่งทะยาน...ภูมิภาคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคหลัง Brexit ความเจริญจะเข้ามาสู่เอเชีย และมาสู่ area เหล่านี้ ไม่อย่างนั้นหุ้นไทยคงไม่ขึ้นมาขนาดนี้ ทำไมขนาดการเมืองมีความผันผวน ทำไมหุ้นถึงขึ้นมา 2 ประเทศ คือ ญี่ปุ่นกับไทย เงินไหลเข้าประเทศจนเงินมันแข็ง แต่เราต้องช่วยกันดูแล ไม่ให้ค่าเงินแข็งจนเกินไป แปลว่าศักยภาพไทยยังมีความพร้อม" รองนายกรัฐมนตรี ระบุ

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ถือเป็นโชคดีของไทยที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปรับตัวดีขึ้นในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ดี และในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ดีนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย และหากต้องการจะให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไปมากกว่านี้ เหมือนเช่นในอดีตที่เคยโตได้ 5-7% สิ่งสำคัญคือจะต้องมีการสร้างความยั่งยืนด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยเน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สามารถแข่งขันได้ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ การแก้ไขกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุน การสร้างธรรมาภิบาล และจำเป็นต้องสร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่ มี Start up ใหม่ ๆ ที่เน้นลงทุนในด้านดิจิตอล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ