ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.61/63 แข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์ทำกำไร คาดกรอบพรุ่งนี้ 34.55-34.70

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 24, 2016 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.61/63 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.64/66 บาท/ดอลลาร์

เย็นนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากที่เปิดตลาดในช่วงเช้า เนื่องจากระหว่างวันมีการขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรของ ผู้ส่งออก โดยคืนนี้ต้องติดตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ เช่น ดัชนีราคาบ้าน, ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนีผู้จัดการ ฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้น เป็นต้น

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.55-34.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.21/25 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 100.26 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1278/1282 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,547.55 จุด เพิ่มขึ้น 7.49 จุด (+0.49%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 60,222 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,544.80 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 มิ.ย.59 อยู่ที่ 5,924,055.53
ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.83% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล 4,373,288.14 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบัน
การเงิน 1,021,940.40 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 517,517.92 ล้านบาท และหนี้
หน่วยงานของรัฐ 11,309.07 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างลดลงสุทธิ 53,297.79 ล้านบาท
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ค.59 อยู่ที่
ระดับ 84.7 ปรับตัวลดลงจากระดับ 85.3 ในเดือนมิถุนายน โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่
2 ซึ่งมีปัจจัยลบจากความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบ รวมทั้งการแข่งขันด้านราคา และปัญหาขาดสภาพ
คล่องโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ขณะที่ผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังการใช้จ่าย นอกจากนี้ ปัญหาความผันผวนของอัตราแลก
เปลี่ยน และความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกยังเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนก.ค.59 อยู่ที่
99,155 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 3.13% เป็นผลจากการส่งออกรถกระบะที่ลดลงในตลาดตะวันออกกลาง ตลาด
แอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 51,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
4.19%
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ปี 2559 ขยาย
ตัว 0.4% แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่มีการขยายตัว 0.7% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวช้าลงนั้น เนื่องจาก
การลงทุนที่ปรับตัวลดลง หลังจากที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี นอกจากนี้ สภาพอากาศที่แปรปรวนยังส่งผลกระทบต่อ
อุตสาหกรรมก่อสร้างด้วยเช่นกัน
  • นักลงทุนติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของทั้งฝั่งยุโรป และสหรัฐฯ ในวันนี้ เช่น สหภาพยุโรป จะมีการ

รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ คืนนี้ จะมีการ

รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย., ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.

โดยมาร์กิต และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ