ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.60 แนวโน้มอ่อนค่า ขานรับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย มองกรอบวันนี้ 34.60-34.70

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 29, 2016 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.57 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ แต่มีโอกาสอ่อนค่าได้ หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ประธานธนาคารกลาง สหรัฐฯ ออกมาพูดถึงมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐว่าเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบหน้าหรือไม่

"วันนี้เงินบาทน่าจะยัง sideway แต่จะเริ่มเป็นขาขึ้น เนื่องจากเมื่อวันศุกร์นางเจเน็ต เยลเลน แถลงว่าเศรษฐกิจ สหรัฐทั้งการจ้างงาน และเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมายแล้ว ซึ่งเป็นตัวช่วยหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็ยังไม่ได้ระบุชัดว่าจะขึ้นได้ เมื่อไร" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.60-34.70 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนยังรอดูการ ประกาศตัวเลข Nonfarm Payroll ของสหรัฐในคืนวันศุกร์นี้ด้วย เพราะถือเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอีกตัวที่ต้องติดตาม

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.50 เยน/ดอลลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 100.43 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1150 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1289 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.5640 บาท/
ดอลลาร์
  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุจากการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจได้เพิ่ม 10% ช่วย
หนุนจีดีพีโต 3.5% เดินหน้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่อ พร้อมเร่งฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหา ขณะที่ยอมรับปีนี้เศรษฐกิจโตไม่ได้ถึง 4-
5% เหตุมูลค่าลงทุนภาครัฐมีสัดส่วนแค่ 6% ของจีดีพี เผยปัจจุบันมี "พีพีพี ฟาสต์แทรค" 5 โครงการ มูลค่ารวม 3.34 แสนล้าน
เตรียมขายไอพีโอกองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ ไตรมาส 4 ปีนี้
  • สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดโรดแมพการประกาศนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้
เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่รัฐบาลวางเป้าหมายให้ขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต เริ่มได้รับแรงสนับสนุนจากภาคเอกชนมาก
ขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีความชัดเจนในการวางเป้าหมายและมาตรการสนับสนุนการลงทุน
  • รมว.พาณิชย์ นัดประชุมพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเดือน ก.ย.นี้ ยกร่างแผนเศรษฐกิจจังหวัด 4.0 เพื่อติดตามความ
คืบหน้าการทำงาน และเตรียมปรับบทบาทสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้เป็นหน่วยงานที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม รวมถึงการผลักดันพาณิชย์
จังหวัดให้เป็นแม่งานจัดทำแผนเศรษฐกิจจังหวัด 4.0 โดยดึงจุดเด่นของแต่ละจังหวัดทั้ง 18 กลุ่มจังหวัดมาปรับปรุงพัฒนาให้สอดคล้อง
กับแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ที่จะขับเคลื่อนไปสู่ประเทศไทย 4.0
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวัน
ศุกร์ (26 ส.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมือง
แจ็คสัน โฮลเมื่อวานนี้ว่า ปัจจัยต่างๆ ที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นอกจาก
นี้ นางเยลเลนยังได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
  • นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เฟดยังคงคาดการณ์ว่าการ
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การจ้างงาน และเงินเฟ้อใกล้แตะระดับเป้าหมายของเฟด ทั้งนี้
ท่ามกลางการปรับตัวที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และมุมมองของเฟดที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และภาวะเงินเฟ้อ จึงเชื่อว่า
ปัจจัยต่างๆ นี้สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
  • CME FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนมองว่ามีแนวโน้มเพียง 18% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวัน
ที่ 20-21 ก.ย. ส่วนโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.อยู่ที่ระดับ 53%
  • ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนส.
ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 89.8 จากระดับ 90 ในเดือนก.ค. โดยผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นน้อยลงในเดือนส.ค. เนื่องจากความวิตกกังวล
เกี่ยวกับสถานะทางการเงินส่วนบุคคล แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัวก็ตาม
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ ขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน
ยังได้รับแรงหนุนหลังจากบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า จำนวนแท่นขุด
เจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนคงที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญา น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 49.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า ยังมีโอกาสมากมายสำหรับแบงก์ชาติญี่ปุ่นที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายการ
เงินเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมระบุด้วยว่า BOJ อาจลดดอกเบี้ยลงอีกจากที่อยู่ในระดับติดลบอยู่แล้ว แม้มีเสียงคัด
ค้านจากบรรดาธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน เนื่องจากนโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผลกำไรของพวกเขา
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะจัดการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่
เพิ่มขึ้นว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% หลังจากที่ราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นปรับ
ตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนมานี้ โดยดัชนี CPI เดือนก.ค. ทำสถิติร่วงลงรุนแรงสุดในรอบกว่า 3 ปี
  • รัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ จะกลับมาเปิดการเจรจารอบใหม่ ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ที่กรุงบรัสเซลส์
ระหว่างการประชุม Euro Working Group ครั้งแรกหลังจากหยุดไปในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุม
ยูโรกรุ๊ปในวันที่ 9 ก.ย.

จุดประสงค์ของการเจรจาระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศในครั้งนี้คือ เพื่อให้เกิดความคืบหน้าในประเด็น ต่างๆ อาทิ การเตรียมความพร้อมของกรีซก่อนการเบิกจ่ายเงินกู้งวดต่อไปมูลค่า 2.8 พันล้านยูโร (3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้กับกรีซ ซึ่งนับเป็นงวดที่ 3 ตั้งแต่ปี 2553 จากนั้น คาดว่ากลุ่มเจ้าหนี้จะเดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ใน เดือนก.ย. เพื่อหารือถึงขั้นตอนที่เหลือซึ่งจำเป็นต่อการปลดล็อกเงินกู้งวดใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ