ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.56 แข็งค่าจากช่วงเช้า ตลาดยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 30, 2016 17:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 34.58 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.55-34.59 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทกลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเทขายดอลลาร์เพราะกลัวทางการจะเข้าดูแลเหมือนช่วงก่อน หน้านี้" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูเป็นการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ คือ การจ้างงานนอกภาค เกษตร (Nonfarm Payroll) เดือนส.ค.

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.65 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.5767 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.10 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1167 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,546.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด, +0.13%
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ค.59 อยู่ที่ 103.36 หด
ตัว 5.1% จาก 108.91 ในเดือน ก.ค.58 โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 62.34% จาก 66.43% เมื่อ
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • สศอ.คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ปีนี้น่าจะยังขยายตัวได้ 1-2% เนื่องจากเชื่อว่าแนวโน้ม MPI ช่วง 5
เดือนที่เหลือของปีนี้ยังดี และเดือน ส.ค.59 คาดว่าดัชนี MPI น่าจะกลับมาเป็นบวกได้ เนื่องจากการผลิตกลับมา
เป็นปกติ ขณะที่ GDP อุตสาหกรรมยังคาดว่าจะได้ตามที่คาดคือ 1.5-2.5%
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออกฯ เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) ดำเนินการมาตรการเพื่อพยุงค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับ 34.50 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนถือเป็น
ปัจจัยหลักอีกประการต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการส่งออกของหลายประเทศรวมถึงไทย
  • นายโยชิฮิเดะ ซึกะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังจับตาดูตลาดต่างๆอย่างใกล้ชิด และพร้อมตอบสนอง
ต่อค่าเงินเยนที่อาจแข็งค่าขึ้นมากเกินไป
  • ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่มีบทบาทมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงเร็ว
กว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก็ตาม

นายสตีเฟน โรช นักวิชาการอาวุโสจากมหาวิทยาลัยเยล และอดีตประธานมอร์แกน สแตนลีย์ เอเชีย เปิดเผยว่า หาก อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ขยายตัวแตะระดับ 6.7% ตามเป้าหมายของรัฐบาล ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะมีสัดส่วนถึง 1.2% ต่อตัวเลข GDP โลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ