สรรพากรแนะร้านยาทั่วปท.จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เล็งขยายสู่ธุรกิจท่องเที่ยวต่อ หวังขยายฐานภาษี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 7, 2016 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานในการสัมมนาเรื่อง "ธุรกิจก้าวหน้า ร้านขายยาสู่สากล" จัดโดยกรมสรรพากร เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านขายยาที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์พัฒนาคุณภาพร้านยาแห่งประเทศไทย (สพย.) ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับนโยบายของกรมสรรพากรที่ส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปนิติบุคคล การให้ความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติเกี่ยวกับภาษีอากรและการจัดทำบัญชีชุดเดียวให้ถูกต้อง เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ

"ปีนี้ กรมสรรพากรเร่งขยายฐานภาษีตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง โดยเชิญชวนให้ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา เข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเพิ่มขึ้น มีการแนะนำให้จัดทำบัญชีชุดเดียวพร้อมเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบ National e-Payment" อธิบดีกรมสรรพากร กล่าว

พร้อมระบุว่า โดยครั้งนี้ได้เชิญผู้ประกอบการร้านขายยาที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์พัฒนาคุณภาพร้านยาแห่งประเทศไทย (ประกอบด้วย สมาคมร้านขายยา สมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) และชมรมร้านขายยา) ซึ่งมีสมาชิกทั่วประเทศจำนวน 21,318 ราย (แยกเป็น ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา 90% และเป็น Chain Store อีก 10%) เข้ามาจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยกรมสรรพากรได้ประชุมหารือกับสมาพันธ์ฯ เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาให้ร้านขายยาเปลี่ยนผ่านสู่นิติบุคคลไว้ ดังนี้

1. ด้านการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยกรมสรรพากรจะนัดประชุมกับ อย.ในปลายเดือนกันยายน 2559 เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการโอนใบอนุญาตใบประกอบจากบุคคลธรรมดาไปสู่นิติบุคคล, การพัฒนาระบบ e–Signature เพื่อรองรับการรับข้อมูลรายงานแบบ e-filing เกี่ยวกับรายงานควบคุมบัญชียา ซึ่งต้องลงลายมือชื่อของเภสัชกรกำกับไว้ในรายงานด้วย, การกำหนดรหัสยาที่เป็นมาตรฐานเพื่อการควบคุมและออกรายงานตามที่ต้องการ และความร่วมมือกับ อย.ในการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ร้านขายยาทั่วประเทศ

2. การประชุมร่วมกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์เฮาส์และสมาคมร้านขายยา เพื่อร่วมกันกำหนดความต้องการของผู้ใช้งาน (Requirement) ให้ผู้ผลิตซอฟต์แวร์เฮาส์พัฒนาโปรแกรมบันทึกการขายยาและโปรแกรมบัญชีทางการเงินรวมเหลือเพียงโปรแกรมชุดเดียว และให้มีระบบแจ้งเตือนการควบคุมเรื่องการหมดอายุของยา และแจ้งเตือนเมื่อมีการจ่ายยาบางประเภทที่ไม่สามารถจ่ายยาร่วมกันได้

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการนิติบุคคล เพื่อลดภาระในการเปลี่ยนผ่านจากบุคคลธรรมดาเป็นนิติบุคคล โดยจะต้องจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ ยกเว้นภาษีทางตรงและทางอ้อมสำหรับการโอนอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ใดๆ, หักรายจ่ายค่าจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ค่าทำบัญชี และค่าสอบบัญชีได้ 2 เท่า (เฉพาะนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท/รอบบัญชี), ได้ลดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจาก 2% เหลือเพียง 0.01%} การโอนใบอนุญาตในการประกอบกิจการของบุคคลธรรมดาให้แก่นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นใหม่ได้ และได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติแล้ว เป็นต้น

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าในการขยายฐานภาษีกับกลุ่มผู้ประกอบการค้าทองคำนั้น กรมสรรพากรได้จัดการประชุมร่วมกับสมาคมค้าทองคำ สมาคมธุรกิจทองคำ ชมรมผู้ค้าปลีกทองคำแห่งประเทศไทย และผู้ผลิตโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป ซึ่งได้ร่วมกันสนับสนุนให้ผู้ประกอบร้านทองที่เป็นบุคคลธรรมดาทั่วประเทศจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องแก่สมาชิกทั่วประเทศ

"กรมสรรพากรได้แจ้งให้สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศให้ความร่วมมือกับชมรมผู้ค้าปลีกทองคำฯ และจัดเจ้าหน้าที่ไปร่วมเป็นวิทยากรบรรยายตามที่ร้องขอ โดยให้ถือว่าเป็นงานที่มีความสำคัญเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงการจัดสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ด้วย" นายประสงค์ กล่าว

พร้อมระบุว่า สำหรับแผนงานการขยายฐานภาษีในระยะต่อไป จะให้ความสำคัญกับธุรกิจการท่องเที่ยว และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว, โรงแรม, ภัตตาคาร, ร้านอาหาร, นายหน้ารับจองที่พัก, ธุรกิจให้เช่ารถนำเที่ยว, ร้านขายของที่ระลึก, ธุรกิจนันทนาการ และธุรกิจเพื่อความบันเทิง ซึ่งขณะนี้มีการรวบรวมข้อมูลในเบื้องต้นและได้ประสานงานเป็นการภายในกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ