คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 59 เป็นเติบโต 3.2% จากเดิมคาดเติบโต 3.1% ขณะที่ปี 60 เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเท่ากับที่ประเมินไว้ที่ 3.2% โดยการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่ลดลง
"เศรษฐกิจไทย ปี 59 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นกว่าที่ประเมินไว้เล็กน้อย เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 2 สูงกว่าคาด ส่วนหนึ่งจากปัจจัยชั่วคราวและมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ"นายจาตุรงค์ จันทรักษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ กนง.กล่าว
นายจาตุรงค์ กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อประมาณการโน้มไปด้านต่ำมากขึ้น โดยปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ เช่น ผลการลงประชามติสหราชอาณาจักร (Brexit) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก โดย กนง.ยังคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะคงหดตัว -2.5% ตามเดิม แต่ในปี 60 ปรับลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 0.0% เป็นหดตัว -0.5% ตามแนวโน้มเศรษฐกิจคู่ค้า
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มต่ำกว่าคาดการณ์หลังจากมีการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยคาดว่าปี 59 นักท่องเที่ยวจีนจะหายไป 2 แสนคน ทำให้ภาพรวมลดลงมาอยู่ที่ 33.6 ล้านคน จากเดิม 34 ล้านคน ส่วนในปี 60 คาดว่าจะหายไป 1 แสนคน ภาพรวมลดลงเหลือ 36.3 ล้านคน จากเดิม 36.7 ล้านคน แต่ก็จะเป็นผลกระทบระยะสั้นช่วงปลายปี 59 หรือไม่เกินต้นปี 60 เท่านั้น
นายจาตุรงค์ กล่าวด้วยว่า กนง.ยังหารือถึงแนวโน้มการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยมองว่าหากเฟดมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของไทยมีความผันผวนมากขึ้น เนื่องจากตลาดการเงินมีปฏิกิริยาในการคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ค่อนข้างเร็ว ขณะที่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเชื่อว่าจะมีไม่มาก
"ที่ประชุม กนง.วันนี้ ไม่ได้ฟันธงว่าเฟดจะตัดสินใจอย่างไร แต่มีการรายงานว่าตลาดการเงินมองว่าที่ผ่านมาประธานเฟดได้ออกมาพูดกลับไปกลับมา ทำให้ กนง.มองว่าตลาดการเงินมีความเห็นว่าเฟดคงไม่ได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบเดือน ก.ย.นี้ แต่จะไปปรับในรอบเดือน ธ.ค." นายจาตุรงค์ กล่าว