ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.65/67 ทรงตัวหลังไร้ปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 34.60-34.70

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 23, 2016 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.65/67 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.65/66 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของค่า เงินบาทมากนัก การเคลื่อนไหวคงเป็นไปตามแรงซื้อแรงขายปกติในระหว่างวัน

"บาทวันนี้คงแกว่งแคบๆ เพราะปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ก็ผ่านไปหมดแล้ว" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.60-34.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.14/19 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 100.69 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1201/1205 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 1.1231 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.6610 บาท/
ดอลลาร์
  • กระทรวงการคลังจะออกมาตรการทำประกันภัยอุบัติเหตุให้กับผู้ที่มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยจำนวน 8.3 ล้านราย
หากเสียชีวิตจะได้เงิน 1 แสนบาท และหากบาดเจ็บหรือป่วยทำงานไม่ได้ จะได้ค่าชดเชยวันละ 300 บาท มาตรการดังกล่าวเพื่อ
ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีความมั่นคงมากขึ้น คาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือน พ.ย.2559 นี้
  • สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. (เอ็ดด้า) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ
ยกระดับความพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์กับ 19 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนการป้องกันภัยจากไซ
เบอร์และรักษามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้บริการออนไลน์
  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนไทยและบริษัทคนไทยแสดงความ
สนใจลงทุน และหลายรายยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนแล้ว โดยเฉพาะด้านการวิจัยและพัฒนาและไบโอเทคโนโลยี รวมทั้งมีแนวโน้มที่
บริษัทของคนไทยจะขยายการลงทุนในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ยื่นขอรับส่งเสริมกิจการในกลุ่มวิจัยและพัฒนาที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม
แก่ภาคอุตสาหกรรม อาทิ กิจการวิจัยพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า กิจการวิจัยพัฒนารถโดยสารขนาดใหญ่พลังงาน
ไฟฟ้า กิจการวิจัยพัฒนาเครื่องจักรที่ใช้ในการหล่อโลหะแบบใหม่ กิจการวิจัยพัฒนาในกลุ่ม กิจการวิจัยพัฒนาสูตรเครื่องสำอางและ
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด กิจการวิจัยพัฒนากระบวนการคัดเลือกและผลิตเมือกหอยทากเพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมทั้งกิจการ
วิจัยพัฒนาในกลุ่มยาและกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ
  • บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.ย. 59 ตลาดหุ้นทั่วโลก ตลาดทองคำและน้ำมันดิบปรับตัว
ขึ้นแรงมาก โดยได้อานิสงส์ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25-0.5% รวมถึงธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ
คงดอกเบี้ยติดลบ 0.1% และใช้นโยบายใหม่กำหนดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 0% แทนการซื้อสินทรัพย์
จำนวนมากที่ดำเนินการตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันเงินเฟ้อสู่ระดับ 2%
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงสวน
ทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 252,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำ
สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค. ร่วงลงสวน
ทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.)
เนื่องจากนักลงทุนยังคงซึมซับเอาปัจจัยการตรึงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมครั้งล่าสุด โดยเงินยูโร
แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1206 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1173 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
เมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 100.90 เยน จากระดับ 100.59 เยน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ย
ระยะสั้นที่ระดับ 0.25-0.50% ในการประชุมครั้งล่าสุด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 13.3 ดอลลาร์ หรือ 1.00% ปิดที่ ระดับ 1,344.7 ดอลลาร์/ออนซ์

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำ
การ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงอย่างมากใน
สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน
พ.ย.พุ่งขึ้น 98 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 46.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 82 เซนต์
หรือ 1.8% ปิดที่ 47.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 5.00% ในการประชุมวันนี้ ทั้งนี้
ธนาคารกลางประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo)
ระยะเวลา 7 วัน แทนการใช้อัตราดอกเบี้ย reverse repo ระยะเวลา 12 เดือน
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื่องต้นเดือนก.ย. โดยมาร์กิตจะเปิดเผยข้อมูลดัง
กล่าวในวันนี้เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย
  • นักลงทุนจับตากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียซึ่งจะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-

28 ก.ย.นี้ นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย โดยที่ประชุมจะหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อรักษา

เสถียรภาพของราคาน้ำมัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ