ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.57/59 แข็งค่าหลัง sentiment ตลาดพอใจผลดีเบตว่าที่ปธน.สหรัฐรอบแรก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 27, 2016 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.57/59 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.61/63 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการดีเบตระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ผลสำรวจระบุว่านางฮิลลารีชนะไปในรอบแรก ทำให้ sentiment ของตลาดออกมา ดี ประกอบกับในช่วงสายยังมี flow ไหลเข้าในตลาดหุ้นไทย

"การดีเบตในรอบแรกวันนี้ ตัวเลขผลสำรวจออกมาว่าคนโอเคกับนางฮิลลารีมากกว่า และตลาดชื่นชอบมากกว่าโดนัลล์ ทรัมป์ จึงทำให้ sentiment ของตลาดออกมาดี ประกอบกับช่วงสายๆ ยังมี flow ไหลเข้าจึงทำให้บาทเย็นนี้แข็งค่าขึ้นมาจากตอน เช้า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50 - 34.65 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์นี้ จะต้องรอดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ เช่น GDP ไตรมาส 2/59, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.41/46 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 100.60 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1245/1249 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1250 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,489.39 จุด ลดลง 0.75 จุด (-0.05%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 34,648 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,003.98 ลบ.(SET+MAI)¶
  • ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 59 เป็นโต 3.2% จากเดิม 3.0% และคาดว่าใน
ปี 60 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องที่ระดับ 3.5% จากอานิสงส์ของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ และแนวโน้มการ
ขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน
  • ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีที่มูลค่าการส่งออกของไทยเดือน ส.ค.สามารถ
ขยายตัวได้ในระดับสูงที่ 6.5% เนื่องจากสินค้าส่งออกหลายอุตสาหกรรมมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น และอีกส่วนหนึ่งอาจจะมีผลมา
จากมูลค่าการส่งออกในเดือน ก.ค.ต่ำกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาตัวเลขการส่งออกต้องมองหลายปัจจัยต่อเนื่องว่ายังมีประเด็นใดที่จะเข้ามาสร้างผลกระทบ บ้าง และหากมองไปข้างหน้ายังต้องให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศ เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มเปราะบางและการฟื้นตัวยัง ไม่กระจายตัว สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกในบางตลาดที่เพิ่มในสัดส่วนที่สูง ขณะที่บางตลาดยังทรงตัว

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการเลือกรูปแบบการออมและการลงทุนของนักลงทุนไทย พบว่า นักลงทุน
สัดส่วนกว่า 3 ใน 4 สนใจการลงทุนในช่องทางการลงทุนทางเลือกอื่นๆ ที่นอกเหนือเงินฝาก หุ้น กองทุนรวม และประกันชีวิต โดย
ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นตัวเลือกในลำดับต้นๆ สำหรับการออมเงิน และการลงทุนของนักลงทุนทุก Generation ทั้งใน
พอร์ตที่มีการลงทุนอยู่แล้วในปัจจุบัน และพอร์ตการลงทุนที่วางแผนไว้ในอนาคต เมื่อเงินหรือกำลังทรัพย์เพิ่มขึ้น
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียจะยังคงอยู่ที่ระดับ
5.7% ในปี 2559 และ 2560 โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและอินเดีย ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเอเชียจะคง
เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงก็ตาม
  • องค์การการค้าโลก (WTO) คาดการณ์ว่า การค้าโลกในปีนี้จะขยายตัวเพียง 1.7% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ว่า จะขยายตัว 2.8% และยังต่ำกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่ง WTO ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2.2% ซึ่งนับ
ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ที่การค้าขยายตัวต่ำกว่า GDP

นอกจากนี้ WTO ยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตประจำปี 2560 ด้วย โดยคาดว่าจะขยายตัวระหว่าง 1.8-3.1% ซึ่ง เป็นสถิติที่ลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 3.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ