ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.62 อ่อนค่าเล็กน้อย รอปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 34.55-34.65

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 29, 2016 16:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.62 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามแรงซื้อขายตามปกติของตลาดเนื่องจากยังไม่มีปัจัยใหม่เข้ามา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.59-34.65 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทเคลื่อนไหวตามแรงซื้อขาย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ประเมินไว้ระหว่าง 34.55-34.65 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.6450 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.48 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ 101.25 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1215 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ 1.1224 ดอลลาร์/ยูโร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/59 จะขยายตัวได้ในระดับ 3.5% หลัง
จากช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสนี้ตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น ส่วนเศรษฐกิจไตรมาส 4/59 ยังมีปัจจัยเสริม
มาสนับสนุนค่อนข้างมาก ทำให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจทั้งปี 59 ยังเติบโตได้ 3.3%
  • สศค. เผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนสิงหาคม 2559 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2559
ขยายตัวได้ดี โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าที่กลับมาขยายตัวเป็นบวก การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวส่วนหนึ่งมาจากราย
ได้เกษตรกรที่ขยายตัวเป็นบวกสะท้อนจากยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวสูงมากในเดือนนี้ ส่วนการใช้จ่ายของรัฐบาล
กลับมาขยายตัวดีขึ้นจากรายจ่ายลงทุนที่กลับมาขยายตัวในระดับสูง ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยัง
คงเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนยังคงมีสัญญาณชะลอตัว
  • ขณะที่เศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือน ส.ค.59 ยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง นำโดย ภาคเหนือ และภาคใต้ ตามแรงขับเคลื่อน
ของการบริโภคสินค้าคงทน และความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการลงทุนภาครัฐที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ รายได้จาก
การเยี่ยมเยือนของนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีเกือบทุกภูมิภาค ช่วยให้เศรษฐกิจภูมิภาคยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่เสถียรภาพยังอยู่ใน
เกณฑ์ดีทุกภูมิภาค
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย แนะไทยควรมุ่งเน้นพัฒนาสนามบินที่มีผู้โดยสารมีความแออัดโดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิและสนาม
บินดอนเมืองซึ่งเป็นสนามบินยุทธศาสตร์สำคัญ โดยคาดว่า ในช่วง 6 ปีข้างหน้าผู้โดยสารที่เดินทางมาใช้บริการยังสนามบินในสังกัด
ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จำนวน 6 แห่ง และกรมท่าอากาศยาน จำนวน 7 แห่ง รวม 13 แห่ง จะมีจำนวนแตะ
238.4 ล้านคน ในปี 65 หรือเติบโตเฉลี่ย 9.5% ต่อปี เกินกว่าความสามารถในการรองรับผู้โดยสารในปีเดียวกันของสนามบินทั้ง
13 แห่งที่ 192.7 คน ต่อปี
  • สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร คาดทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่และกลาง
ถือว่ามีสถานะทางการเงินที่ค่อนข้างมั่นคง และน่าจะมีความพร้อมในการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นในไตรมาส 4/59 ประกอบการ
ทางธนาคารก็มีการอำนวยสินเชื่อแก่ผู้มีความต้องการบ้าน ภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ต้นทุนของราคาที่อยู่อาศัยยัง
ไม่ได้ปรับตัวสูงมาก จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อ
  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจรัสเซียเริ่มฟื้นตัวจากภาวะถดถอย แต่ก็เตือนว่า แนวโน้มเชิง
บวกของเศรษฐกิจนั้น อาจจะไม่ยั่งยืน
  • นางไมนูช ชาฟิค รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เผย BoE มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
โดยมองว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจต้องมีการกระตุ้นการเงินเพิ่มเติมในวันข้างหน้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่
ชะลอตัวอยู่แล้วนั้น จะไม่ย่ำแย่ลงไปอีก แต่จังหวะเวลาในการใช้นโยบายกระตุ้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในอีก
หลายเดือนข้างหน้า
  • ศาสตราจารย์เอียน เบ็กก์ แห่งลอนดอน สคูล ออฟ อิโคโนมิคส์ กล่าวว่า การที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป

(Brexit) จะยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจนจนกว่าจะถึงสิ้นปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ