ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.69/71 อ่อนค่าหลัง GDP Q2/59 สหรัฐฯดีกว่าคาด หนุนดอลล์แข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 30, 2016 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.69/71 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.62 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง เนื่องจากเมื่อคืนสหรัฐฯ ประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาส 2 ขยายตัว 1.4% ซึ่งถือว่า ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 1.1%

"วันนี้บาทอ่อนค่าลงไป เพราะตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่า เมื่อเทียบกับสกุลอื่น" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าได้อีก และอาจทะลุ 34.70 บาท/ดอลลาร์ โดยมองกรอบวันนี้ ไว้ที่ 34.65-34.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 101.48 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1212 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 1.1215 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 34.625 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง ถึงการปรับหลักเกณฑ์และวิธีลงทุนของ
สถาบันการเงิน ในกรณีที่เป็นการลงทุนในบริษัทที่ไม่ใช่กิจการธุรกิจทางการเงิน หรือธุรกิจสนับสนุนทางการเงิน และการลงทุนในกอง
ทรัสต์ ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของสถาบันการเงิน เพื่อเพิ่มช่องทางในการระดมทุนหรือเข้าถึงเงินทุนให้ธุรกิจที่สำคัญกับ พื้นฐานเศรษฐกิจ
ประเทศ แต่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ เช่น เอสเอ็มอี ธุรกิจเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) และกิจการที่ใช้นวัตกรรมใหม่ (สตา
ร์ทอัพ) ให้ทำธุรกิจเงินร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล) และลงทุนในกองทรัสต์ได้มากขึ้น
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้กำหนดเป้าหมายที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมให้ก้าว
สู่อุตสาหกรรม 4.0 ในระยะยาว โดยได้คัดเลือกอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะดำเนินงานได้ทันทีประมาณ 20 อุตสาหกรรม อาทิ ยาน
ยนต์และชิ้นส่วน ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ ปิโตรเคมีและพลาสติกขั้นสูง โดยจะนำนวัตกรรมมาต่อยอดให้มากขึ้นโดย
คาดว่าจะเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเร็วสุดภายใน 5-10 ปี
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งศึกษาตั้งกองทุนคนชราตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายก
รัฐมนตรี โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินจากการเก็บภาษีบาปจ่ายโดยตรงให้กับกองทุนคนชราที่จะตั้งขึ้น แต่ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะจัดส่งให้
อัตราเท่าไหร่ เพราะต้องดูความต้องการใช้เงินอีกครั้ง
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ขยายตัว 1.4% โดย
สูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 1.1% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.3%
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ขาน
รับรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่
ระดับ 101.16 เยน จากระดับ 100.75 เยน ขณะที่เงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1212 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคาร
ดอยซ์ แบงก์ และธนาคารรายอื่นๆ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.3
ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ระดับ 1,326.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่ง
ออกน้ำมัน (โอเปก) มีมติปรับลดการผลิตน้ำมัน ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการซึ่งจัดขึ้นที่แอลจีเรียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็
ตาม สัญญาน้ำมันปรับขึ้นในกรอบจำกัด นักวิเคราะห์ได้แสดงความไม่มั่นใจต่อข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมานั้น สมาชิกโอเปกมัก
ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ในการลดการผลิต สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 47.83
ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 49.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • นายพอล แอชเวิร์ท หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทแคปิตอล อิโคโนมิกส์ ระบุในรายงานว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้

สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่านางเจเน็ต เยลเลน

ประธานเฟด จะประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที โดยอาจเกิดขึ้นก่อนการประชุมเฟดในกลางเดือนธ.ค. ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าเฟด

จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ