นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เรียกร้องให้ภาคเอกชนเร่งเดินหน้าขยายการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น จากที่ในปัจจุบันโครงการลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากภาครัฐเป็นหลัก เพราะมั่นใจว่าหากเอกชนเร่งเดินหน้าลงทุนแล้วจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้สูงทะลุ 4% จากปัจจุบันที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวในระดับ 3%
รมว.คลัง ยังได้กล่าวในงานสัมมนา "เสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ" โดยระบุว่า ปัจจุบันมีรัฐวิสาหกิจทั้งสิ้น 55 แห่ง มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 13 ล้านล้านบาท ซึ่งรัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ จะต้องเร่งดำเนินการเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กร การสร้างธรรมาภิบาลในองค์กร ที่สามารถตรวจสอบได้ ที่จะเป็นหลักในการสร้างความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเอกชน
สำหรับรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นมานั้น มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป และมีหน้าที่ของตัวเองโดยไม่เป็นการแสวงหากำไรสูงสุด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหลายฝ่ายมองว่ารัฐวิสาหกิจไม่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับเอกชน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอนาคตจะมีการคัดเลือกผู้บริหารที่ไม่ใช่แค่คนเก่ง หรือมาจากตัวแทนนักการเมืองเท่านั้น แต่จะเป็นผู้ที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนให้มีประสิทธิภาพในการบริหารงานมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจมีหน้าที่หลักอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องของการลงทุน ที่ล่าสุด ครม. มีมติเห็นชอบกรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้ง 55 แห่ง โดยกรอบการลงทุนประจำปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 1.52 ล้านล้านบาท และมีวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 5.8 แสนล้านบาท
รมว.คลัง กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 60 รัฐวิสาหกิจมีการตั้งเป้าหมายที่จะมีการลงทุนมากกว่าปีนี้เท่าตัว หรือใช้งบประมาณราว 6 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่ใช้ไปเพียง 3 แสนล้านบาท โดยในปีนี้การเบิกจ่ายงบประมาณทำได้เพียง 50% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นในเบื้องต้นจึงได้สั่งการให้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 เป็นต้นไป จะไม่มีการลดเป้าหมายการเบิกจ่ายลงทุนที่ตั้งเป้าหมายไว้ 95% เพื่อที่จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐวิสาหกิจที่สามารถแข่งขันได้
"ปีนี้เรายอมรับว่าการเบิกจ่ายทำได้เพียง 50% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก เราเลยสั่งว่าปีหน้าห้ามลดเป้าหมายที่เราตั้งไว้ 95% จะต้องทำให้ได้ การตั้งเป้าจะต้องนำไปสู่การบริหารจัดการทำอย่างเข้มแข็งและต้องทำให้ได้ ไม่ใช่ผ่านไปไม่กี่เดือนมาขอลดเป้าหมาย"นายอภิศักดิ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า การลงทุนของรัฐวิสาหกิจนั้น จะส่งผลให้ภาคเอกชนเดินหน้าลงทุนตาม เพราะที่ผ่านมาเอกชนชะลอการลงทุนใหม่มาประมาณ 10 ปี ดังนั้นถึงเวลาที่จะต้องลงทุนใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะถือเป็นเรื่องที่น่าห่วง โดยที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ ผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งการให้สิทธิประโยชน์ รวมถึงเร็วๆ นี้จะมีการออกบีโอไอพลัส เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เอกชนลงทุนด้วย
โดยปัจจุบันมองว่า GDP จะเติบโตได้เพียง 3% แต่หากภาคเอกชนมีการลงทุนตามการลงทุนของภาครัฐ จะสามารถผลักดันให้ GDP เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 4% อย่างแน่นอน
"หลังจากนี้การลงทุนต่างๆของภาครัฐจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็หวังว่าภาคเอกชนก็จะมีการขยายการลงทุนตามไปด้วย ซึ่งหากภาคเอกชนเริ่มลงทุนเมื่อได GDP ของไทยจะขยายตัวได้มากกว่า 4% แน่นอน แม้ปัจจุบันจะมอง GDP เติบโตได้เพียง 3%"นายอภิศักดิ์ กล่าว