นายกฯ ชี้ปราบทัวร์ศูนย์เหรียญสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday October 1, 2016 08:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท แต่ยังมีปัญหาเรื่อง "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ซึ่งเป็นปัญหาด้านการท่องเที่ยวในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งเป็นปัญหาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมากว่า 40 ปีแล้ว โดยเป็นบริษัทนำเที่ยวในต่างประเทศที่นำนักท่องเที่ยวจากประเทศตนเองมาท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านบริษัทนำเที่ยวในไทย โดยบริษัทที่ส่งนักท่องเที่ยวมานั้นไม่จ่ายค่าทัวร์แฟร์ (Tour Fair) ได้แก่ ค่าโดยสาร ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าทัวร์ และอื่นๆ ให้กับบริษัทนำเที่ยวของไทย แล้วจัดโปรแกรมทัวร์ในลักษณะการพานักท่องเที่ยวไปช้อปปิ้งในร้านค้าที่เป็นนอมินี เช่น ร้านจิวเวอร์รี่, เครื่องหนัง, งานศิลปหัตถกรรม และอื่นๆ ซึ่งโก่งราคาสินค้าสูงกว่าความเป็นจริง 10-100 เท่า การใช้บริการที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร รถโดยสาร ที่เป็นเครือข่ายเดียวกับบริษัททัวร์จากประเทศต้นทางซึ่งมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังทั้งในวงการธุรกิจและการเมือง รวมทั้งการจัดโปรแกรมทัวร์เสริม โดยบังคับให้ซื้อทัวร์เหล่านี้ เช่น ล่องแพ ขี่ช้าง เพิ่มเติม เป็นต้น ด้วยวิธีการกดดัน ขู่เข็ญต่างๆ นานา เช่น การยึด Passport, ปิดแอร์รถ จอดรถจนกว่าจะยอมทำตามข้อตกลงหรื แม้กระทั่งทิ้งลูกทัวร์

"การทำทัวร์ลักษณะนี้ส่งผลเชิงลบโดยตรงต่อธุรกิจที่พัก ร้านอาหาร ผู้ประกอบการ ท่องเที่ยว นำเที่ยว ร้านขายสินค้าที่ระลึกของไทยนะครับ เนื่องจากมีการตั้งบริษัทนอมินีมาทำธุรกิจเหล่านั้นแทน ทำให้ประเทศไม่ได้รับรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย อีกทั้งส่งผลกระทบข้างเคียง อาทิ นักท่องเที่ยวไม่ได้รับการดูแลที่ดีและถูกเอาเปรียบ เกิดการเข็ดขยาดไม่มาเที่ยวประเทศไทยอีก ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยนั้นก็จะไม่ได้รับค่าทัวร์แฟร์ จนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวนะครับ อาจต้องปิดกิจการ รวมถึงสร้างความเสื่อมโทรมให้กับแหล่งท่องเที่ยวและทรัพยากรธรรมชาติเนื่องจากไม่สามารถจะควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ได้ เป็นต้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเมื่อคืนนี้

ปัจจุบันรัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยการบังคับใช้ทุกกฎหมายของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมาเพื่อความถูกต้อง อาทิ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551, ระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ว่าด้วยมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์ฯ พ.ศ.2556 เป็นต้น รวมทั้งบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านความมั่นคง ด้านกฎหมาย ด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจรทุกมิติในคราวเดียวกัน โดยการทำการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมการท่องเที่ยว กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เพื่อให้การบริหารจัดการในการแก้ไขปัญหา การประกอบธุรกิจนำเที่ยวตลาดจีน ซึ่งเป็นปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญมากที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางแก้ไข ได้แก่ การกำหนดราคากลางขายทัวร์ที่เป็นธรรมกับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีการกำหนดต้นทุนที่ชัดเจนตามกลไกตลาดเป็นการชั่วคราวระหว่างที่รอกฎหมายลูก ซึ่งจะกำหนดราคาขั้นต่ำของทัวร์ภายในปลายปีนี้, การควบคุมการให้บริการนักท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพ อาทิ การกำหนดแบบรถทัวร์ คุณสมบัติไกด์ทัวร์ ตลอดจนรูปแบบของร้านค้าที่บริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวไปซื้อของได้, จัดทำโมเดลเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐาน โดยระบุสิ่งที่ทำได้และสิ่งที่ห้าม, มีการตรวจสอบทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยเพิ่มเติมการตรวจสอบในเชิงลึก โดยเฉพาะที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทลูกข่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องการเสียภาษีและการฟอกเงิน เป็นต้น, ดำเนินมาตรการในระดับยุทธศาสตร์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศต้นทาง โดยได้พูดคุยสร้างความเข้าใจ เพื่อแสวงหาความร่วมมือกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CNTA) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนะครับ เพราะฉะนั้นนักธุรกิจของเราก็คงจะต้องร่วมมือนะครับ ได้มีการจัดทำบันทึกลงนามความเข้าใจ (MOU) เพื่อการทำงานเชิงรุกร่วมกันในอนาคตต่อไป

"การแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังก็อาจจะมีผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวระยะสั้นนะครับ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ก็เพื่อจะเป็นการรักษาภาพลักษณ์และคุณภาพของการท่องเที่ยวของไทย ที่สำคัญก็คือ ได้มีการจัดระเบียบทางสังคม เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่แล้วนะครับ ก็จะเป็นการส่งเสริมให้การท่องเที่ยวของไทยนั้นมีความยั่งยืน เน้นคุณภาพ มากกว่าปริมาณนะครับ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ