ธนาคารโลก เปิดตัวรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกฉบับล่าสุด คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในปี 59 ของไทยน่าจะเติบโตได้ราว 3.1% โดยการบริโภคยังมีส่วนช่วยหนุนการเติบโต แม้จะยังอยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่การลงทุนจากภาคเอกชนและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากอุปสงค์ภายนอกลดลง และความไม่แน่นอนทางการเมือง
ขณะที่ยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีนที่ขาดเสถียรภาพทางการเงิน นำมาซึ่งบรรษัทที่มีหนี้สินสูงอาจจะผิดนัดชำระหนี้และส่งผลกระทบกับไทยในเรื่องการค้าและช่องทางการไหลเวียนของเงินทุน เนื่องจากไทยส่งออกสินค้าไปจีนถึง 12% จากยอดการส่งออกทั้งหมด และเงินลงทุนจากจีน คิดเป็น 8%ของเงินทุนไหลเข้าจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ หากประชาชนไม่พอใจกับการเดินหน้าปฎิรูปทางการเมืองหรือมีการเลื่อนการปฎิรูปออกไป ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะทำให้การใช้จ่ายภาครัฐถูกเลื่อนออกไป และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ และการที่รัฐบาลยืนยันจะจัดการเลือกตั้งในปี 60 ได้ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องนี้ไปได้