(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 35.18/20 แนวโน้มแข็งค่าในกรอบ 35.10-35.20

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 18, 2016 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.18/20 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.29 บาท/ดอลลาร์

วันนี้ปัจจัยที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ตลาดให้ความสนใจ ยังคงเป็นปัจจัยภายในประเทศ ขณะที่เมื่อคืนนี้ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาก็ไม่ค่อยจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินเท่าใดนัก

"วันนี้ยังคงต้องดูปัจจัยความเคลื่อนไหวในประเทศกันต่อ เพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ก็ไม่ค่อยมีผลกระทบ อะไรมาก" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.10-35.20 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.2017 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (17 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.20493% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (17 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.49612%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.84 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.09 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1015 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0991 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.3690 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยธุรกรรมโอนเงินมูลค่าสูงผ่านระบบบาทเนต 3.53 แสนรายการ มูลค่า
เกือบ 80 ล้านล้านบาท พบปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี การซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล และธุรกรรมการจ่ายคืน
เงินต้นดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลโต 24.9% 48.4% และ 644.9%
  • กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการเพื่อดูแลกลุ่มธุรกิจภาคบริการ เช่น โรงแรม ศูนย์การแสดงสินค้าและธุรกิจ
อื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ใน ช่วงนี้ แต่ต้องเป็นมาตรการที่ไม่สวนทางกับความรู้สึกของประชาชนเชื่อว่าจะ
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาได้บ้าง ส่วนเรื่องการเร่งลงทุนภาคเอกชนเพื่อให้ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่านั้นยังเดินหน้าต่อเนื่อง ซึ่ง
กระทรวงการคลังเตรียมเดินสายชี้แจงผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นให้เอกชนหันมาสนใจและลงทุนมากขึ้น ส่วนสถานการณ์ตลาดเงินและ
ตลาดทุนของไทย ยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแต่ก็ไม่ประมาทจะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
  • ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีพล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ออกใบอนุญาตตาม พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทาง
อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. 2559 จำนวน 6 แห่ง คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ธนาคารพัฒนา
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประชุมร่วมสำนักงาน ททท.ทั้งในและ ต่างประเทศ ปรับกลยุทธ์ชวนนักท่อง
เที่ยว ร่วมเป็นส่วนหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ไทย ย้ำ ททท.ทั่วโลกแจงงดเทศกาลรื่นเริง 1 เดือน พร้อมให้ ทุกสำนักงานจับตา
สถานการณ์ตลาดใกล้ชิด ก่อนรายงานรองนายกฯ 20 ต.ค.นี้
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เพราะได้
รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไร รวมทั้งถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • ดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากนางเยลเลน กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เฟดอาจจะต้องการผลักดันเศรษฐกิจที่มีแรงกดดันสูง
ด้วยการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไร หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน
ช่วงก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของนางเยลเลน สวนทางกับนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด ที่ออกมาแสดงความเห็นล่าสุดว่า อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ สามารถนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและยาวนาน และทำให้เศรษฐกิจมีความเปราะบางมากขึ้น

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้น
ตลาด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่รายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้
งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำ มันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 51.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • อิหร่านได้เน้นย้ำถึงแผนการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบขึ้นสู่ระดับ 4 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ไนจีเรียได้ตั้งเป้าเพิ่มการผลิต
น้ำมันอีก 400,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของ เบเกอร์
ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐ ซึ่งระบุว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่ม
ขึ้น 4 แท่น สู่ระดับ 432 แท่น
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ค เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) หดตัวเป็นเดือน
ที่ 3 ในเดือนต.ค. ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่, การขนส่ง และการจ้างงานต่างก็ปรับตัวลง โดยดัชนีภาคการผลิตร่วงลงสู่ระดับ -6.8 ใน
เดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และลดลงจากระดับ -2.0 ในเดือนก.ย.
  • เอิร์นส์ แอนด์ ยัง ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา ระบุว่า เศรษฐกิจของอังกฤษ จะเริ่มได้รับผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นใน

ช่วง 6 เดือน จากการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่อัตราเงินฟ้อพุ่งขึ้น และการลงทุนในภาคธุรกิจลดต่ำลง

ขณะเดียวกัน การอ่อนค่าของปอนด์จะผลักดันให้ราคานำเข้าสินค้าพุ่งขึ้น ซึ่งจะกระทบต่ออำนาจซื้อของผู้บริโภค ส่วนการลงทุนทาง

ธุรกิจมีแนวโน้มดิ่งลง จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ