(เพิ่มเติม) พาณิชย์ออก 6 มาตรการเร่งด่วนยกระดับราคามันสำปะหลัง พร้อมเตรียมขยายตลาดใน ตปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 18, 2016 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์มันสำปะหลังว่า ขณะนี้มีมันสำปะหลังปลายฤดูจากปีก่อนที่มีเชื้อแป้งต่ำไม่ได้มาตรฐานออกสู่ตลาด ทำให้ราคาต่ำและจะมีผลกระทบต่อมันที่จะออกสู่ตลาดในช่วงธันวาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุดประมาณ 70% ของผลผลิตทั้งหมด หรือประมาณ 21 ล้านตัน ขณะที่ปัจจุบันการส่งออกมันสำปะหลังมีการแข่งขันและมีการตัดราคากันอย่างรุนแรงโดยเฉพาะตลาดในจีน

ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงกำหนดนโยบายและเร่งดำเนินการเป็นกรณีเร่งด่วน ดังนี้

1. กำหนดราคาขั้นต่ำในการส่งออกแป้งมันในราคา FOB ไม่ต่ำกว่า 320 เหรียญสหรัฐ/ตัน มันเส้นราคา FOB ไม่ต่ำกว่า 180 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งราคานี้เกษตรกรจะขายหัวมันได้ในราคากิโลกรัมละ 1.90 บาท จากราคาหัวมันสดปัจจุบันที่ 1.50-1.60 บาท/กก. และในระยะต่อไปจะขยับราคาขั้นต่ำเพิ่มขึ้น เพื่อดึงให้ราคาหัวมันสดเพิ่มขึ้นไปอีก

2. สมาคมโรงงานผู้ผลิตเอทานอลไทย จะรับซื้อหัวมันสดที่เชื้อแป้ง 25% ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 1.90 บาท โดยสามารถรับซื้อได้วันละ 13,000 ตัน ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถรวมกลุ่มกันนำผลผลิตมาส่งที่โรงงานฯ

3. กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานกับกระทรวงพลังงาน ปรับราคาน้ำมันขายปลีกเพื่อให้ราคาน้ำมันจากน้ำมันดิบให้มีราคาต่างจากน้ำมันที่ผสมเอทานอลมากขึ้น เพื่อเป็นการจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันที่ผสมเอทานอลมากขึ้นด้วย

4. กำหนดให้ผู้ส่งออกจะต้องมีสต็อกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในครอบครองก่อนการส่งออกในอัตราส่วน 1:1.5 หากจะส่งออก 1 ตัน จะต้องเก็บสต็อก 1.5 ตัน เพื่อให้ผู้ส่งออกซื้อผลิตภัณฑ์มันฯ เก็บในสต็อกในช่วงที่ออกสู่ตลาดมาก

5. บริหารการนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง โดยให้นำเข้าเฉพาะด่านถาวรที่มีเจ้าหน้าที่ พร้อมตรวจสอบ และกำกับการนำเข้าอย่างเคร่งครัด

6. กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนการรณรงค์ของเกษตรกรที่ให้ผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศหยุดถอนมันฯ เพื่อรอให้ผลผลิตมีคุณภาพและราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2 บาท เพื่อยกระดับราคาหัวมันสำปะหลัง

"สำหรับการกำหนดราคาขั้นต่ำนั้น คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้เป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด หากผู้ส่งออกยังส่งออกในราคาต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนด กระทรวงฯ จะใช้มาตรการตั้งแต่เบาไปหาหนัก โดยจะเริ่มจากกำหนดให้ผู้ส่งออกต้องเพิ่มปริมาณการเก็บสต๊อกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง จากเดิมที่กำหนดในอัตราส่วน 1 ต่อ 1.5 คือ หากจะส่งออก 1 ตัน ต้องเก็บสต๊อก 1.5 ตัน ก็จะเพิ่มเป็น 1 ต่อ 2 และหากยังขายราคาต่ำอยู่อีก จะใช้มาตรการทางกฎหมาย แต่จะใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย"

นายวินิจฉัย กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเพิ่มเติม หากเกษตรกรมีความจำเป็นต้องชำระหนี้หรือเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในช่วงที่รอเก็บเกี่ยวผลผลิต สามารถให้ ธ.ก.ส.ขอพักชำระหนี้ต้นเงินและลดดอกเบี้ย โดยจะขยายเวลาชำระต้นเงินให้เป็นเวลา 2 ปี และลดดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ต่อปี และหากมีความต้องการใช้เงินในช่วงรอเก็บเกี่ยว สามารถขอกู้เงินได้รายละไม่เกิน 20,000 บาท ดอกเบี้ย 0.5% ต่อเดือน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางไปเจรจาขยายตลาดสินค้ามันสำปะหลังในประเทศอินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งมีความต้องการนำเข้าแป้งมันสำปะหลัง มันเส้น มันอัดเม็ด และกากมันอัดเม็ด จากไทยจำนวนมาก และจะได้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจสินค้ามันสำปะหลังกับผู้ซื้อในต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย.นี้ มั่นใจว่าจะสามารถยกระดับราคามันสำปะหลังในประเทศให้ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ