ส.ศูนย์การค้าไทย ร่วมผลักดันรัฐลดภาษีสินค้าแบรนด์เนมหวังดึงดูดนักท่องเที่ยว

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย (TSCA) กล่าวว่า สมาคมฯ ยังร่วมกันผลักดันนโยบายลดภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมต่อเนื่อง โดยได้เข้าพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงการท่องเที่ยว กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือให้เกิดนโยบายนี้ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการค้า และเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศไทยเทียบชั้นอย่างฮ่องกง สิงคโปร์

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยดึงดูนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก และให้ไทยเป็น Tourist Destination ครบวงจร โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน และรัสเซีย ที่มีกำลังซื้อและเป็นนักท่องเที่ยวอันดับต้นของไทย จากนักท่องเที่ยวรวมในปีนี้ 30 ล้านคน รวมทั้งยังช่วยนักท่องเที่ยวในประเทศซื้อสินค้าในประเทศไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ และสามารถต่อยอดสินค้าแบรนด์ไทยด้วย

"เราได้พบหน่วยงานของรัฐ กระทรวงท่องเที่ยว กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้นโยบายเกิดขึ้นได้เร็ว ซึ่งก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมหาศาล"นางสาววัลยา กล่าว

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวใช้จ่ายในการช้อปปิ้ง 1,200 บาท/คน/ทริป จากยอดใช้จ่ายรวมของนักท่องเที่ยว 5,000 บาท/คน/ทริป

นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย กล่าวว่า ในปีนี้ คาดว่ารายได้จากธุรกิจศูนย์การค้าจะเติบโต 4-5% ขณะที่กำไรลดลงบ้าง แต่ผู้ประกอบการยังขยายการลงทุนต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 59-60 สมาชิกของศูนย์การค้าไทย 10 รายมีการลงทุนขยายพื้นที่ศูนย์การค้า เงินลงทุนรวม 7 หมื่นล้านบาท จะทำให้ภายในปี 60 ศูนย์การค้าในไทยจะมีพื้นที่ค้าปลีก (Retail GFA) เพิ่มขึ้นเป็น 18.7 ล้าน ตร.ม.ซึ่งเป็นพื้นที่ของสมาชิกสมาคม 8 ล้านตร.ม. เพิ่มเป็น 94 ศูนย์การค้า

ปัจจุบัน ศูนย์การค้าในประเทศมีพื้นที่ Retail GFA รวมทั้งหมด 18 ล้านตร.ม. โดยมีพื้นที่ Retail GFA ของศูนย์การค้าในกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ รวมกันกว่า 7.6 ล้าน ตร.ม.จาก 91 ศูนย์การค้า คิดเป็นสัดส่วน 42% ของพื้นที่รวม

ทั้งนี้ ธุรกิจศูนย์การค้าถือเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีสัดส่วน GDP คิดเป็น 12% เป็นอันดับสองรองจากภาคอุตสาหกรรม