ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.63/65 ตลาดโฟกัสผลประชุม ECB พรุ่งนี้- FOMC ในสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 7, 2016 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.63/65 บาท/ดอลลาร์ จาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.58/63 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อวานไม่ผ่าน 35.60 ก็เด้งขึ้นมาเช้านี้...ตลาดน่าจะโฟกัสไปที่ผลการประชุม ECB วันพรุ่งนี้และ FOMC วีคหน้า ซึ่ง ECB น่าจะมีลุ้นกว่า เพราะ FOMC น่าจะขึ้น Rate แน่ แต่ก็ต้องจับตาดูทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯสำหรับปีหน้ามากกว่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60 - 35.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 114.10 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0725 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0760 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6190 บาท/
ดอลลาร์
  • ลุ้นอีกรอบ คลังเข็นมาตรการช็อปช่วยชาติเข้า ครม.วันนี้ คาดเริ่มระหว่าง 15-31 ธ.ค.59 ไม่ห่วงรัฐสูญรายได้
เชื่อได้กลับคืนมากกว่า 6-7 พันล้านบาท
  • นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลจ่ายเงิน
สมทบให้สมาชิกมีเพดานสูงสุด 1,200 บาท/ปี โดย กอช.จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแก้ไขกฎกระทรวงให้จ่ายเงิน
สมทบเพิ่มเป็น 1,500 บาท/ปี ในไตรมาสแรกปี 2560 เพื่อเป็นแรงจูงใจให้แรงงานนอกระบบเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนมากขึ้น
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.กำลังเร่งขับเคลื่อน
ยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคมภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560-
64) โดยตั้งเป้าหมายสร้างรายได้และขยายโอกาสให้กับประชากรในกลุ่ม 40% ที่มีรายได้ต่ำสุด 27 ล้านคน ให้มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น
เป็นคนละ 7,755 บาทต่อเดือน จากปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 5,344 บาทต่อเดือน ภายหลังจากสิ้นสุดแผนพัฒนาฯ 12 ซึ่งถ้า
เป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อว่าลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ปัญหาความยากจนให้กับคนไทยได้
  • สถาบันการเงินภาครัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ
เกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดให้บริการโอนเงินค่าสวัสดิการภาครัฐให้แก่ผู้ลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดคน
ละ 600 บาทต่อเดือน ผ่านระบบพร้อมเพย์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย แต่ในส่วนการให้บริการโอนเงินระหว่างบุคคลได้เลื่อนให้
บริการพร้อมเพย์เป็นต้นปีหน้า
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2559
หดตัวลง 0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวลงเพียง 0.1% และยังเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดนับ
ตั้งแต่ปี 2551
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น
มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2015 หรือในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง โดยทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ใน
เดือนก.ย.
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลัง
จากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า
ขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 114.00 เยน จากระดับ 113.75 เยน และเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ
1.0715 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0775 ดอลลาร์สหรัฐ
  • นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน
สัปดาห์หน้า โดยผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุน
ลดการถือครองทองคำ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) ทำสถิติปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 5
วันทำการ หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ปริมาณการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน
พ.ย. แม้ว่ากลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงการปรับลดการผลิตแล้วก็ตาม
  • นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของ

สหรัฐในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จาก

มหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ