กพช.รับทราบแผนขับเคลื่อนสมาร์ทกริดระยะสั้น ปี 60-64 งบประมาณรวม 2 พันลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 8, 2016 12:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน รับทราบแผนขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทย ในระยะสั้น ปี 60-64 ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 ได้มีมติเห็นชอบ ทั้งนี้ เพื่อผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดของประเทศไทย ปี 58-79 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดการนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

โดยแผนขับเคลื่อนฯ ดังกล่าว ได้กำหนดกิจกรรมและงบประมาณสำหรับดำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งในปี 60-64 กิจกรรมที่จะดำเนินการภายใต้แผนขับเคลื่อนฯ มีจำนวน 20 โครงการ คิดเป็นงบประมาณรวม 2,082 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นด้านการศึกษาวิจัย การสาธิตนำร่อง และการเตรียมการเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ การพัฒนาขีดความสามารถด้านสมาร์ทกริดของประเทศ ทั้งทางด้านเทคโนโลยีและบุคลากร และการสื่อสารสร้างความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

สำหรับเป้าหมายและผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนฯ ประกอบด้วย ช่วยลดภาระการก่อสร้างโรงไฟฟ้าประเภท Peaking Plant 350 เมกะวัตต์ , ลดปัญหาความผันแปรของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยจัดทำค่าพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และเกิดการใช้งานระบบโรงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็ก 3-5 โครงการ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เกาะที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว และพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น

นอกจากนี้ กพช. รับทราบรายงานผลการจัดทำอัตราค่าไฟฟ้าตามมาตรการส่งเสริมการลดใช้ไฟฟ้า (Demand Response Rate) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ซึ่งส่งเสริมให้ผู้ใช้ไฟฟ้าลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) โดยมีเป้าหมายลดการใช้ไฟฟ้าอย่างน้อย 500 เมกะวัตต์ ในปี 60-61

โดยใช้อัตราค่าไฟฟ้าแตกต่างกัน ใน 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการ Critical Peak Pricing สำหรับลด Peak ของปี , มาตรการ Interruptible/Curtailable Service สำหรับภาวะฉุกเฉิน และมาตรการ Emergency Demand Response Program สำหรับรองรับการหยุดของแหล่งก๊าซฯ ทั้งนี้ จะเริ่มประกาศใช้ในปี 60-61 ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ