นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยปี 60"ว่า การค้าระหว่างประเทศของไทยในปี 60 คาดว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมมีการฟื้นตัวขึ้น โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 60 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.2% จากปีนี้ 1.7% จะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เศรษฐกิโลกมีการฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของยูโรโซนยังสามารถมีการขยายตัวได้ แต่การขยายตัวจะลดลงจากปีนี้เล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.6% จากปีนี้ 1.7% เพราะยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนของการเจรจา Brexit ทำให้ความเชื่อมั่นและการลงทุนต่างๆ ยังชะลอตัวเพื่อรอดูความชัดเจน ขณะที่การอพยพของผู้ลี้ภัยจากซีเรียยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันเศรษฐกิจในยุโรป
ด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่นคาดว่าเติบโตได้อย่างช้าๆ ซึ่งปีหน้าคาดการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวได้ 0.9% จากปีนี้ที่ขยายตัว 0.5% ขณะที่เศรษฐกิจประเทศจีนยังสามารถขยายตัวได้อยู่ แต่ในปี 60 อาจจะมีการขยายตัวลดลงจาก 6.6% ในปีนี้มาอยู่ที่ 6.4% เนื่องจากปัญหาหนี้สินนอกภาคสถาบันการเงินในจีนเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญ
โดยในภาพรวมนั้นแม้เศรษฐกิจในประเทศหลักที่สำคัญของโลกจะมีการขยายตัวเพิ่มหรือลดบ้างก็ตาม แต่ยังถือว่ามีทิศทางการฟื้นตัวที่ดี โดยทาง IMF ได้ประเมินเศรษฐกิจโลกยังมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งปีหน้าตามตัวเลขของ IMF เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัวได้ 3.4% สูงกว่าปีนี้ที่ขยายตัว 3.1% ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น และทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งคาดว่าค่าเงินบาทในปี 60 จะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนุนต่อการค้าระหว่างประเทศของไทย ส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยในปีหน้าจะสามารถกลับมาขยายตัวได้อยู่ที่ 2.5-3.5% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์การส่งออกไทยในปี 60 สูงกว่าหน่วยงานอื่นที่คาดว่าการส่งออกไทยในปี 60 จะขยายตัว 0%
"ผมมองสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกว่าแนวโน้มมีการปรับตัวดีขึ้นและฟื้นตีวขึ้นตามลำดับ ซึ่งก็อย่างที่ตัวเลขของ IMF ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะค่อยๆฟื้นขึ้นอย่างช้าๆ มองว่าเป็นทิศทางที่ดีต่อการค้าระหว่างประเทศของไทยที่จะดีขึ้น และแนวโน้มราคาน้ำมันกับสินค้าเกษตรที่ค่อยๆปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่า ซึ่งปีหน้าก็คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 36 บาท/ดอลลาร์ ยังเป็นตัวช่วยการส่งออกของไทยในปีหน้าให้กลับมาเป็นบวกได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ตัวเลขการส่งออกปีหน้าสูงกว่าที่อื่นที่มองว่า 0% โดยเรามองว่าจะขยายตัวได้ 2.5-3.5% แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยที่จะต้องติดตามยังเป็นเรื่องการกีดกันการค้าโลกจะมีอะไรบ้าง และนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่จะมีผลกระทบต่อประเทศไหนบ้าง" นายวินิจฉัย กล่าว
ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 60 กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะขยายตัวได้ 3-4% จากปีนี้ที่คาดว่าขยายตัวได้ 3-3.5% ซึ่งปัจจัยหนุนหลักมาจากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะเริ่มเห็นการเบิกจ่ายอย่างชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า จากในช่วงปลายปีนี้ที่เริ่มมีการทยอยประมูลโครงการต่างๆ ออกมา ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบราว 1.1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นซึ่งประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจะมีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 35-36 ล้านคน ขยายตัวราว 6-9% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 33 ล้านคน แต่การปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทยบ้างในระยะสั้น แต่เชื่อว่าจะเป็นผลดีในระยะยาว และภาคการส่งออกไทยที่จะสามารถกลับมาขยายตัวได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์ประเมินที่ขยายตัว 2.5-3.5% ในปีหน้า จะเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนการเติบโตของตัวเศรษฐกิจไทยในปี 60