(เพิ่มเติม) ครม.ผ่านมาตรการภาษี-มาตรการการเงินสนับสนุนไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณี-เครื่องประดับโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 17, 2017 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก ประกอบด้วย มาตรการทางภาษี มาตรการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ มาตรการยกระดับฝีมือแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และมาตรการทางการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

"ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมากถึงปีละ 4 แสนล้านบาท เป็นอันดับที่ 8 ของโลก และเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวซื้อจากเรามากเป็นอันดับ 4 จากสินค้าทั้งหมด และเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ตั้งแต่ต้นทางการเจียระไนพลอย เผาพลอย กลางทาง ได้แก่ การออกแบบ การขึ้นรูป จนถึงปลายทางคือสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับต่างๆ มีการจ้างงานกว่าปีละ 9 แสนคน และมีผู้ประกอบการกว่า 3.7 หมื่นราย" นายณัฐพร กล่าว

สำหรับมาตรการที่ได้อนุมัติในวันนี้ ประกอบด้วย 1.การยกเว้นอาการขาเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในตอนที่ 71 จำนวน 32 ประเภทย่อย 2.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ มาตรการภาษีที่กำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถหักรายจ่ายได้สองเท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือนหรือค่าจ้างแรงงานที่เป็นช่างเครื่องประดับที่ผลิตด้วยมือที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นเวลาสามรอบบัญชี และการยกระดับคุณภาพสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับด้วยการจัดทำมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก โดยมีตราสัญลักษณ์กลางที่ใช้รับประกันคุณภาพ 3.การยกระดับคุณภาพฝีมือแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยการจัดตั้งโรงเรียนเฉพาะทางเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการรายใหญ่และต่างประเทศ 4.มาตรการทางการเงิน ด้วยการต่ออายุมาตรการสินเชื่อเอสเอ็มอีวงเงิน 3 หมื่นล้านบาทออกไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.60 หรือจนกว่าวงเงินจะจัดสรรหมด 5.มาตรการส่งเสริมด้านการตลาด โดยการประชาสัมพันธ์ในย่านการค้าที่สำคัญ

"แม้การยกเว้นอากรขาเข้าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ปีละ 324 ล้านบาท แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์ในการสร้างประเทศไทยให้เป็นฮับของการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายใน 3 ปี" นายณัฐพร กล่าว

ที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมด้านต่างๆ เช่น การยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ในการผลิต การลดอากรขาเข้าสินค้าสำเร็จรูปเหลือ 10% การลดภาษีมูลค่าเพิ่มในบางกรณี การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ