นายคณิสสร์ ศรีวชิระปะภา ประธาน บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลโครงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (รถเมล์เอ็นจีวี) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เรียกร้องให้กรมศุลกากรเร่งสรุปผลและนำหลักฐานต่าง ๆ มายืนยันว่ารถเมล์อ็นจีวีไม่ได้มีถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการกล่าวอ้างว่า สงสัยว่า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท อีกทั้งยังทำให้คนกรุงเทพฯก็เสียโอกาสในการใช้บริการรถเมล์ใหม่ หลังจากยังไม่สามารถส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีให้กับขสมก.ได้ตามกำหนด
"ขณะนี้กรมศุลกากรยังไม่ได้แสดงหลักฐานพิสูจน์ว่า รถเมล์ดังกล่าวไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นถิ่นกำเนิดมาเลเซีย แต่เพียงมีข้อสงสัย ว่ารถบัสประกอบสำเร็จรูปทั้งคันและส่งจากประเทศจีน ทั้งนี้ บริษัทได้แสดงเอกสารจากทางการมาเลเซีย (From D) เพื่อขอยกเว้นภาษีนำเข้าแล้วและต้องการให้กรมศุลกากรเร่งสรุปผลและนำหลักฐานต่าง ๆ มาเปิดเผยยืนยันว่ารถเอ็นจีวีไม่ได้มีถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการกล่าวอ้างว่า สงสัยว่า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท"นายคณิสสร์ กล่าว
ทั้งนี้ ความล่าช้าในการส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าว เนื่องจากบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีโดยสารใหม่จากประเทศมาเลเซีย เข้ามาในราชอาณาจักร 99 คัน ตามใบขนเลขที่ A0020591200783 โดยเรือ GLOVISPRIME เที่ยววันที่ 1 ธ.ค.59 ได้สำแดงรายการเสียภาษีในประเภทพิกัด 8702.90.94 อัตรา 0% เป็นการใช้สิทธิลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากรสำหรับของที่มีกำเนิดจากอาเซียน ฉบับประกาศใน พ.ร.บ. ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 6 ม.ค.55
แต่กรมศุลกากรต้องการให้บริษัทวางประกันค่าภาษีในอัตรา 40% และวางประกันค่าปรับ 2 เท่าของค่าภาษี บริษัทยินยอมจะวางประกันค่าภาษี โดยขอไม่ต้องวางเงินประกันค่าปรับจำนวน 2 เท่า เนื่องจากว่าไม่เป็นไปตามประมวลระเบียบปฏิบัติที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ พ.ศ. 2556 ข้อ 4 03 06 05 เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากร สำหรับสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดจากอาเซียน (ATIGA) เป็นการทั่วไป
ด้านนายปัญญ์ เกษมทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายศุลกากร กล่าวว่า ตามระเบียบปฏิบัติศุลกากรเห็นได้ว่าบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัดยังมิได้ถูกเพิกถอนสิทธิตามหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าจากหน่วยงานที่ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของทางการมาเลเซียแต่อย่างใด จึงยังคงได้รับสิทธิลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลัง
อนึ่ง เมื่อวานนี้นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม ระบุว่าขณะนี้ขสมก.มีทางเลือก 2 ทาง คือ 1. รอข้อสรุปจากกรมศุลกากรเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า การผลิต หรือการประกอบจากประเทศใดให้ได้ข้อยุติก่อน โดยระหว่างนี้กรมศุลกากรของไทยได้ส่งหนังสือไปยังกรมศุลกากรมาเลเซียเพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะมีข้อสรุปเมื่อใด
2. ขสมก.ต้องมาพิจารณาเรื่องค่าปรับ โดยหากถึงจุดที่เกินกว่าจุดเหมาะสม ที่ตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดว่าค่าปรับต้องไม่เกิน 10% ของมูลค่าสัญญา ก็เป็นเรื่องที่ทางขสมก.จะสามารถบอกเลิกสัญญากับเอกชนรายดังกล่าวได้ โดยขสมก.มีเวลาถึงสัปดาห์หน้าที่จะพิจารณายกเลิกสัญญาการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีกับเอกชนรายนี้ได้ เนื่องจากเอกชนไม่สามารถส่งมอบรถได้ตามกำหนด และหลังจากนี้อาจจะมีการเปิดประมูลใหม่