นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.01 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว ใกล้เคียงกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.00/35.04 บาท/ดอลลาร์ หลังมีแรงเทขายดอลลาร์
"บาททรงตัวใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ แม้เมื่อคืนตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาจะดี แต่กลับมีแรงเท ขายดอลลาร์ทำกำไร" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.95-35.05 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้บาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอดูปัจจัยต่างประเทศที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่ออัตราแลกเปลี่ยน" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจ้ยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 114.02 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 114.45/55 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.0618 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0545/0555 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0180 บาท/
ดอลลาร์
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.03% แตะที่
6.8629 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกัน
เป็นวันที่ 5 ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการปรับลดภาษีและลดกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรม นอกจาก
นี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และถ้อยแถลงในวันที่สองของนางเจเน็ต เยลเลน ประธาน
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้แสดงมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,611.86 จุด
พุ่งขึ้น 107.45 จุด หรือ +0.52% ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,819.44 จุด เพิ่มขึ้น 36.87 จุด หรือ +0.64% ส่วนดัชนี
S&P500 ปิดที่ 2,349.25 จุด เพิ่มขึ้น 11.67 จุด หรือ +0.50%
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากนางเจเน็ต
เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการแถลงรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส โดย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 371.47 จุด ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,924.86 จุด เพิ่ม
ขึ้น 29.04 จุด หรือ +0.59% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,793.93 จุด เพิ่มขึ้น 22.12 จุด หรือ +0.19%
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้น
การเงินที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้น
ดอกเบี้ยในการแถลงต่อสภาคองเกรส โดยดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 33.85 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 7,302.41 จุด
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้าน
การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลง
ทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 9 เซนต์ หรือ
0.2% ปิดที่ 53.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 55.75
ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำ
ร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงทำสถิติสูงสุดติดต่อกัน 5 วันนั้น ได้สกัดแรงซื้อทองคำ
ในระหว่างวัน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.63%
ปิดที่ระดับ 1,233.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.4 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 17.963
ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,009.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และ
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ หรือ0.7% ปิดที่ 786.20 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) ด้วย
แรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการแถลงต่อสภาคองเกรส นอกจาก
นี้ ภาวะการซื้อขายยังรับปัจจัยจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งหลายรายการ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่
ระดับ 114.27 เยน จากระดับ 114.19 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0069 จากระดับ 1.0070 ฟรังก์สวิส
ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 1.0587 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0574 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ
1.2445 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2471 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7700 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7651
ดอลลาร์