นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายเกษตรแปลงใหญ่

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 24, 2017 13:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางตรวจติดตามผลการดำเนินงานแปลงใหญ่ และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ณ วิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวอินทรีย์ บ้านอุ่มแสง ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้พบปะประชาชนและเกษตรกรที่ร่วมดำเนินการแปลงใหญ่ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมมอบเงินสนับสนุนสินเชื่อโครงการเกษตรแปลงใหญ่ ให้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่บริหารจัดการแปลงใหญ่ จำนวน 5 กลุ่ม รวม 45 ล้านบาท

หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะร่วมเปิดโรงสีกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ศูนย์ส่งเสริมและผลิตภัณฑ์ข้าวชุมชนอุ่มแสง และได้ร่วมกิจกรรมจัดทำปุ๋ยอินทรีย์กองใหญ่ ณ บริเวณนาข้าวฐานการเรียนรู้ของศพก. (ข้าว) อ.ราษีไศล เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวพร้อมรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินการแปลงใหญ่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษของเกษตรกรสมาชิกในกลุ่มสินค้า 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว หอมแดง พริก ทุเรียน กระเทียม

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีแนวทางการจัดการภาคการเกษตรโดยใช้แนวนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มการผลิตในรูปแบบแปลงใหญ่ และใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เป็นศูนย์ของเกษตรกรต้นแบบที่สามารถให้ความรู้ในเชิงวิชาการเพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกร มีการบริหารจัดการร่วมกัน ตั้งแต่การผลิต จนถึงการตลาด สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตมีการบริหารจัดการที่ดี ภายใต้การสนับสนุนและบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งภาคเอกชน ทั้งนี้การสนับสนุนทั้งด้านความรู้โดยการใช้งานวิจัย นวัตกรรม เทคโนโลยี และการบริหารจัดการ เข้าไปช่วยพัฒนา เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในด้านต่าง ๆ รวมทั้งยกระดับมาตรฐานและเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตร ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทย

สำหรับเงินทุนรัฐบาลได้สนับสนุนโครงการสินเชื่อระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับกลุ่มเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ นำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาการผลิตของกลุ่มต่อไป

สำหรับการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ ปัจจุบันเห็นผลสำเร็จแล้วใน 600 แปลง พื้นที่ 1.538 ล้านไร่ เกษตรกร 96,554 ราย 33 ชนิดสินค้า อาทิ ข้าว กล้วยไม้ อ้อย ปลานิล ซึ่งเกษตรกรแปลงใหญ่ในสินค้าบางชนิด สามารถลดต้นทุนได้ถึง 15 % และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอีก 15 %

ทั้งนี้ในปี 2560 กระทรวงเกษตรฯ ได้วางเป้าการพัฒนาแปลงใหญ่ไว้ อีกกว่า 900 แปลง และได้มีการปรับหลักเกณฑ์และกระบวนการที่จะให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบการผลิตแบบแปลงใหญ่ได้ง่ายขึ้นรวมทั้งได้จัดตั้งเครือข่ายผู้นำของเกษตรกรแปลงใหญ่มีการประสานงานเพื่อหาความร่วมมือ ทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินการแปลงใหญ่ไปสู่ความยั่งยืนโดยมีเกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ของตนเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ