นายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเรื่อง การใช้มาตรการความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า (Emergency Demand Response Program: EDRP) เพื่อรองรับแผนการดำเนินงานของผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก ว่า การหยุดจ่ายก๊าซฯ ตามแผนการปิดซ่อมบำรุง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เหตุการณ์ที่มักจะมีผลต่อภาคไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญคือการหยุดแหล่งยาดานาในเมียนมาช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และแหล่ง JDA-A18 ในอ่าวไทยช่วงเดือนกรกฎาคม โดยการหยุดแหล่งยาดานาเป็นเหตุการณ์ที่มีการขาดแคลนก๊าซฯมากที่สุด และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศโดยมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไปตามปริมาณการใช้ไฟฟ้า ราคา และการจัดหาเชื้อเพลิงรวมถึงกำลังการผลิตที่ต้องนำมาใช้ทดแทน
“การเตรียมการรองรับสถานการณ์ให้ประเทศไทยมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ โดยไม่เกิดสภาวะวิกฤตหรือไฟดับเป็นวงกว้างในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง เป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการขอความร่วมมือจากผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี และสมุทรสงคราม ให้ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วง peak เพื่อลดการใช้น้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซฯที่ขาดหายไปและลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของประชาชน"นายไกรสีห์ กล่าว
นายไกรสีห์ กล่าวว่า ถึงแม้การหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ จะเป็นสิ่งที่วางแผนล่วงหน้า แต่ปัจจัยหนึ่งซึ่งคาดเดาได้ยากและต้องเตรียมการระบบผลิตรวมถึงการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีราคาลอยตัวให้เพียงพอ คือการใช้ไฟฟ้าในขณะเกิดเหตุการณ์ กกพ. จึงนำมาตรการ Demand Response ซึ่งเป็นมาตรการที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ไฟฟ้าตอบสนองต่อข้อจำกัดของระบบผลิตและส่งไฟฟ้าในเหตุการณ์เช่นนี้โดยให้ผลตอบแทนแก่ผู้ที่ให้ความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ระบบต้องการ ซึ่งโดยรวมแล้วมีต้นทุนที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต และนอกจากผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับค่าตอบแทนในการลดการใช้ไฟฟ้าแล้ว ยังได้รับประโยชน์จากค่าไฟฟ้าที่ลดลงตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วง peak ที่ลดลง การประหยัดค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) และอัตราค่าไฟฟ้าในอนาคต รวมถึงประโยชน์จากการลดความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้าดับโดยไม่ทราบล่วงหน้า
ทั้งนี้ การสัมมนาในครั้งนี้ จะมีการจัดขึ้นรวมสิ้น 3 ครั้ง 3 วันติดต่อกัน โดยในครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นที่โรงแรมไมด้า ทวารวดี แกรนด์ จ.นครปฐม ในวันที่ 2 มีนาคม และครั้งที่ 3 จะจัดขึ้นที่โรงแรม ณ เวลา จังหวัดราชบุรี ในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสัมมนามาจากตัวแทนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน พลังงานจังหวัดสมุทรปราการ และตัวแทนผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยจะเป็นเวทีสำหรับชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการ Demand Response แบบ Emergency Demand Response Program หรือ EDRP ซึ่งจะนำมาทดลองใช้แบบเจาะจงพื้นที่เพื่อลดผลกระทบในภาพรวมและเกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้มาตรการสำหรับเหตุการณ์หยุดซ่อมแหล่งยาดานาในครั้งนี้ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการฯ กับการไฟฟ้าได้โดยตรง และภายหลังจากการสัมมนา ผู้ใช้ไฟฟ้ายังสามารถยื่นใบสมัครและส่งเอกสารเพิ่มเติมได้ที่การไฟฟ้านครหลวง ถ.เพลินจิต ถึงวันที่ 7 มี.ค.
สำหรับพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทุกแห่งในจังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี และสมุทรสงคราม ถึงวันที่ 9 มี.ค. เพื่อรับการพิจารณาตอบรับเข้าร่วมโครงการและดำเนินมาตรการในวันที่ 27-31 มี.ค. ทั้งนี้ หากใช้ได้ผลกกพ. และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้นำผลลัพธ์ไปขยายพลพัฒนาเป็นมาตรการระยะยาวต่อไป