4 กระทรวงจับมือ DTAC หนุนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก-สร้างรายได้ชุมชน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 22, 2017 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ และบมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือ ดีแทค ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมเศรษฐกิจผู้ประกอบการในชุมชนท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับชุมชน

สำหรับภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะรับหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรของชุมชนแต่ละพื้นที่ รวมถึงการนำนวัตกรรมสู่การผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงดิจิทัลฯ จะรับหน้าที่สนับสนุนการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสู่ทุกตำบลทั่วไทย กระทรวงพาณิชย์รับหน้าที่ส่งเสริมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกระทรวงศึกษาธิการจะช่วยยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิตสู่โลกดิจิทัล ขณะที่ดีแทค จะร่วมบูรณาการกับ 4 หน่วยงานหลัก ในการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและการติดต่อลูกค้าในลักษณะองค์รวม ส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมผู้ประกอบการรายใหม่ และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนแต่ละท้องถิ่น มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ทำธุรกิจ และส่งเสริมให้เป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ชทำการค้าออนไลน์แบบครบวงจร

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายในปี 2560 ที่จะมุ่งเน้นการยกระดับสินค้าเกษตรสู่ความมั่นคง สำหรับในปี 2560 กระทรวงเกษตรฯ มีกิจกรรมโครงการในแผนงานหลายโครงการที่ต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริม ทั้งการใช้ประโยชน์สำหรับการดำเนินงานภายใต้โครงการ และนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาต่อยอดให้เกิดการค้าออนไลน์ การขายอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้าภาคการเกษตร ซึ่งหากสามารถยกระดับ และทำความร่วมมือกันทุกภาคส่วนยังจริงจัง จะทำให้ผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพตรงจากฟาร์มหรือแหล่งผลิต ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ในขณะเดียวกันเกษตรกรผู้ผลิต ก็สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ขายสินค้าภาคเกษตรได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดขาย ทั้งในตำบล อำเภอจังหวัด ภูมิภาค หรือภายในประเทศ อีกทั้งมีโอกาสขายไปต่างประเทศได้ด้วย

​“การเข้าร่วมโครงการความร่วมมือในครั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มองเห็นถึงความสำเร็จของการพัฒนาเกษตรกรในทุกอำเภอที่เป็นสมาชิกของศูนย์เรียนรู้การเรียนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. 882 ศูนย์ เมื่อโครงการนี้เข้ามาเสริมความรู้ด้านการใช้ดิจิทัล และการค้าออนไลน์ จะทำให้ภาคีเครือข่ายสมาชิกของ ศพก.ทั่วประเทศ มีช่องทางในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และช่องทางการขายออนไลน์ ทำให้มีโอกาสมากกว่าเดิม” นายธีรภัทร กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ