นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.66 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว ในระดับเดียวกับเปิดตลาดช่วงเช้า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.65-34.69 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจาก ตลาดรอดูผลการลงมติกฎหมายเฮลธ์แคร์ของสหรัฐคืนนี้
"วันนี้บาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ มีทั้ง flow ไหลเข้าและไหลออก ปริมาณซื้อขายปานกลาง ตลาดรอดูผลเรื่องการ โหวตกฎหมายเฮลธ์แคร์คืนนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินคาดสัปดาห์หน้าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.07 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.33 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0805 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0771 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 4.79 จุด, +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 35,671.48 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,554.09 ล้านบาท (SET+MAI)
- ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดว่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า( 27-31 มี.ค.) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.40-
34.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยต้องจับตาผลการลงมติของรัฐสภาสหรัฐฯเกี่ยวกับร่างกฎหมาย"อเมริกันเฮลธ์แคร์" ที่จะมาทด
แทน "โอบามาแคร์" ในคืนวันศุกร์นี้ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้ความสามารถในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัม
ป์
- ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) เห็นชอบเปิดให้การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ตลอด
จนกิจการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า และกิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์
ไฟฟ้าที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย พร้อมเตรียมเสนอแพจเก็จที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม
รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษีสรรพาสามิต มาตรการจูงใจให้มีการใช้รถไฟฟฟ้ามากขึ้น รวมถึงแก้ไขกฏระเบียบต่อที่
ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 28 มี.ค.นี้
- บอร์ดบีโอไอ เห็นชอบให้เปิดส่งเสริมกิจการบริการทางการแพทย์ ใน 4 กิจการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ผลัก
ดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบริการทางการแพทย์ครบวงจร
- บอร์ดบีโอไอ มีมติเห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการด้านพลังงานรวม 4 โครงการ เงินลงทุนทั้งสิ้น
161,300 ล้านบาท
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ
1.50% ต่อเนื่องในการประชุมรอบสองของปี 560 ในวันที่ 29 มี.ค.60 นี้ และน่าจะส่งสัญญาณยืนดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะ
โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือน ก.
พ.60 พบว่า สินเชื่อสุทธิปรับตัวดีขึ้นจากสินเชื่อภาคธุรกิจ โดยภาพรวมสินเชื่อกลับมาเพิ่มขึ้น 0.49% MoM (+1.57% YoY) จากการ
เพิ่มขึ้นของสินเชื่อภาคธุรกิจทั้งในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และธนาคารขนาดเล็กบางราย โดยเฉพาะสินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียน
(Working Capital) และสินเชื่อประเภทมีระยะเวลา (Term Loan)
- สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์ GDP ภาคเกษตรปี 60 ขยายตัวในช่วง 2.5-3.5% โดยในไตร
มาส 1/60 GDP ภาคเกษตร ขยายตัว 4.2% ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/59 ที่หดตัว -2.0%
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระงับการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO
วันนี้ หลังจากที่ได้อัดฉีดเงินเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดปรับตัวดีขึ้น
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจะไม่ปรับขึ้นเป้าหมายผลตอบแทนระยะยาวพันธบัตร
รัฐบาล แม้ว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในต่างประเทศจะสร้างแรงกดดันต่อผลตอบแทนของพันธบัตรของญี่ปุ่น
- นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเกี่ยวกับการใช้ร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" แทน "โอบามาแคร์"
รอบใหม่ในวันนี้ หลังจากที่การลงมติเมื่อวานได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเสียงสนับสนุนของพรรครีพับลิกันยังไม่มากพอต่อการผลักดัน
ร่างกฎหมายดังกล่าว
- ผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรปจะประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีของสนธิสัญญากรุงโรม เพื่อหารือกัน
เกี่ยวกับการเดินหน้าภายหลังจากที่อังกฤษได้ถอนตัวจากสหภาพยุโรป