นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนภาคใต้ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อสร้างสันติสุขและความเชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ โดยได้อัดฉีดงบประมาณกว่า 18 ล้านบาท ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเชื่อมั่นในเขต 7 เมืองหลัก รวมทั้งให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในระบบการรักษาความปลอดภัย สามารถดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างเป็นปกติสุข
สำหรับหัวเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ 7 เมืองหลักของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย 1.อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 2.อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 3.อำเภอเบตง จังหวัดยะลา 4.อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 5.อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส 6.อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส 7.อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีสินค้าและบริการที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เกาะแก่ง หาดทรายที่สวยงาม น้ำตกธรรมชาติสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มาเยือน
อีกทั้งมีสินค้าที่โดดเด่นสวยงามเป็นเอกลักษณ์ อาทิผ้าบาติก ผ้าทอพื้นเมืองเกาะยอ สินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) เช่น ลองกองตันหยงมัส ปลากุเลาตากใบ จังหวัดนราธิวาส กล้วยหินบันนังสตา จังหวัดยะลา และยังมีสินค้าที่มีชื่อเสียงที่อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียน GI ได้แก่ ไก่เบตง ส้มโชกุน จังหวัดยะลา ใบไม้สีทอง จังหวัดนราธิวาส จำปาดะ จังหวัดสตูล ส้มโอควนลัง จังหวัดสงขลา เป็นต้น
ขณะเดียวกันจังหวัดชายแดนใต้เป็นประตูการค้าสู่มาเลเซีย สิงคโปร์ โดยในแต่ละปีมีมูลค่าการค้าชายแดนด้านมาเลเซียกว่า 500,000 ล้านบาท เป็นการส่งออกประมาณ 258,000 ล้านบาท การนำเข้าประมาณ 243,000 ล้านบาท จากสถิติปี 59 ผ่านมา ไทยได้ดุลการค้าชายแดนมาเลเซียประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยมีจุดผ่านแดนถาวรที่สำคัญ ได้แก่ ด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ ด่านบ้านประกอบ จังหวัดสงขลา ด่านสุไหงโกลก ด่านตากใบ จังหวัดนราธิวาส ด่านเบตง จังหวัดยะลา ด่านวังประจัน จังหวัดสตูล ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเที่ยวกว่า 2 ล้านคน ดังนั้นพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 จังหวัด จึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศเป็นอย่างมาก
การดำเนินโครงการของกระทรวงพาณิชย์เพื่อการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ และส่งเสริมด้านการตลาด ทั้งในพื้นที่เชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคอื่นๆ ได้แก่ งานของดีแดนใต้ งานถนนคนเดินในเขตเมืองหลัก ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ.และ มี.ค.60 ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าเยี่ยมชมและจับจ่ายใช้สอยในงานเป็นอย่างดี
และเร็วๆ นี้จะมีการจัดงานเทศกาลอาหารเล่าขานเมืองเบตง ในวันที่ 10-14 พ.ค.60 ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อประชาสัมพันธ์อาหารประจำถิ่น เช่น ไก่เบตง บะหมี่เบตง ส้มโชกุน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ อาทิ อุโมงค์ปิยะมิตร ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บ่อน้ำร้อนเบตง และดอกไม้เมืองหนาว ทั้งนี้ความมีอัธยาศัยอันเป็นมิตรไมตรีของชาวเบตง ทำให้ประชาชนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสงบสุขทุกศาสนา โครงการดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
"จังหวัดชายแดนใต้มีประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม กระทรวงพาณิชย์จึงได้ผลักดันโครงการพัฒนาผู้ประกอบการผลิตอาหารฮาลาลพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพสินค้าเชื่อมโยงสู่ตลาดสากลในปีงบประมาณ 2561 เป็นการตอกย้ำความพร้อมของครัวไทยสู่ครัวโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการและชุมชนต่อยอดไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก" นางอภิรดี กล่าว