(เพิ่มเติม) กนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตามตลาดคาด มองแม้ศก.โตดีแต่ยังมีความเสี่ยง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 29, 2017 14:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปีตามตลาดคาดการณ์ เพื่อให้ภาวะการเงินโดยรวมอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง เพราะแม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นและดีกว่าที่ประเมินไว้เดิม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวสูงขึ้น แต่เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงอีกมาก โดยเฉพาะจากด้านต่างประเทศ

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ในฐานะเลขานุการ กนง.เปิดเผยว่า กนง.เห็นว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังมีนแนวโน้มฟื้นตัว และการใช้จ่ายของภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ส่วนการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งผลของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ปัญหาเสถียรภาพการเงินจีน รวมถึงพัฒนาการทางการเมืองและปัญหาภาคการเงินในยุโรป

ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทยอยปรับสูงขึ้น แต่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ และอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางของสาธารณชนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่ากลางของกรอบเป้าหมาย อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจผันผวนในระยะสั้นจากผลของฐาน และมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากพัฒนาการราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ผ่านมาปรับลดลงบ้าง ส่วนหนึ่งจากฐานภาษีสรรพสามิตที่สูงในปีก่อน แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนจากสภาพคล่องในระบบการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดีเงินบาทโน้มแข็งค่าขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับสกุลคู่ค้าคู่แข่งสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยเท่าที่ควร กนง.มองว่าในระยะข้างหน้าอัตราแลกเปบี่ยนอาจผันผวนสูงขึ้นได้จากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศ

กนง.มองไปข้างหน้าเห็นว่า แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยชัดเจนมากขึ้น แต่ยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนอยู่มากโดยเฉพาะจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่านโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนต่อเนื่อง และพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสม เพื่อให้ภาวะการเงินโดยรวมเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ