บอร์ด EEC ไฟเขียวเมืองการบินภาคตะวันออก-เดินหน้ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 5, 2017 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ EEC นัดแรกที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบตามข้อเสนอของกองทัพเรือที่ให้ประกาศพื้นที่ 6,500 ไร่ ของสนามบินอู่ตะเภา เป็นเขตส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก "เมืองการบินภาคตะวันออก"

พร้อมระดมการลงทุนในกิจกรรมสำคัญ อาทิ เพิ่มทางวิ่งมาตรฐานอีก 1 ทางวิ่ง ลงทุนในกลุ่มกิจกรรมหลัก 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มอาคารผู้โดยสารและการค้า 2.กลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยาน 3.กลุ่มธุรกิจขนส่งทางอากาศ 4.กลุ่มธุรกิจซ่อมเครื่องบิน และ 5. กลุ่มศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรอากาศยานและธุรกิจการบิน

ขณะที่ในอนาคตอาจมีอีก 3 กิจกรรมเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียง คือ 1.กลุ่มธุรกิจท่าเรือพาณิชย์ 2.ศูนย์การแพทย์เฉพาะด้าน และ 3.อุตสาหกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศ รวมถึงให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุน จัดทำรูปแบบให้เอกชนร่วมทุน และจัดทำสัญญาการร่วมทุนกับเอกชนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

นายคณิศ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมให้ปรับปรุงระบบขนส่งทางรางให้รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก ความเร็ว 250 กิโลเมตร/ชม. สามารถวิ่งเชื่อมโยงทั้ง 3 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง และสนามบินอู่ตะเภา โดยวิ่งให้บริการในเส้นทางร่วมกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ พญาไท-สุวรรณภูมิ และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนขยาย พญาไท-ดอนเมือง ซึ่งผู้โดยสารจะใช้เวลาเดินทางจาก กทม.-ระยอง โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งทำการศึกษาความเหมาะสมและขอรับการจัดสรรงบประมาณ

คณะกรรมการฯ ยังรับทราบความก้าวหน้าการปรับปรุงกฎระเบียบและวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นใน 3 เรื่อง คือ เร่งรัดกระบวนการร่วมทุนกับเอกชนสำหรับโครงการสำคัญใน EEC ให้แล้วเสร็จภายใน 8-10 เดือน, เรื่องของเขตปลอดอากรที่ปลอดเอกสาร เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว, การชักจูงผู้ลงทุนรายสำคัญมาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมดิจิทัล และศูนย์การแพทย์

เลขาธิการ EEC กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการฯ ยังเห็นชอบแนวทางการพัฒนาเขตเทคโนโลยีระดับโลกของไทย 2 แห่ง คือ 1.เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ระยะแรก พื้นที่ 350 ไร่ ที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จังหวัดระยอง โดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อประกาศเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออกโดยเร็ว และ 2.เขตนวัตกรรมดิจิตัลภาคตะวันออก ในพื้นที่ 800 ไร่ บริเวณอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นผู้ดำเนินการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ