คนร.จี้ขสมก.-รฟท.-THAI-iBank แก้ปัญหาให้เป็นไปตามแผน,ทีโอที คาดโครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน 3 พันแห่งแล้วเสร็จภายในปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 19, 2017 13:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คนร. ได้กำชับให้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เร่งจัดซื้อรถโดยสารที่ได้ยกเลิกไปและปรับปรุงสภาพรถให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการต่างๆ ให้เป็นไปตามแผนงานซึ่งกำหนดไว้ และผลักดันให้มีการบริหารสินทรัพย์ (ที่ดิน) ให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้คงค้างทั้งหมดได้ และให้ บมจ.การบินไทย (THAI) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการรายได้เพิ่มเติม โดยทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบในหลักการให้บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม จัดตั้งบริษัทลูก คือ บริษัท โครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN) และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC) ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้ง 2 รัฐวิสาหกิจ และสามารถก้าวสู่ความสามารถในการแข่งขันโดยการลงความซ้ำซ้อนในการลงทุนในระยะยาว โดยบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นจะมีประสิทธิภาพในการบริหารงานเทียบเท่ากับบริษัทเอกชน เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจในอนาคต โดยให้เสนอตามขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทลูกต่อไป และมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลฯ กำกับดูแลให้ทั้ง 2 รัฐวิสาหกิจ ปรับปรุงแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงภายในเดือน พ.ค.60 และการจัดตั้งบริษัทลูกข้างต้นให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

นอกจากนี้ รับทราบการดำเนินโครงการ Internet หมู่บ้านของ บมจ.ทีโอที โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงแรกภายในเดือน พ.ค.60 และแล้วเสร็จทั้งหมด 2,500-3,000 หมู่บ้านภายในปีนี้ ซึ่ง บมจ.ทีโอที สามารถประหยัดต้นทุนในโครงการได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ขณะที่ ที่ประชุม คนร. เตรียมปรับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Development Bank ออกจากแผนฟื้นฟูหลังมีผลการดำเนินงานดีขึ้น ทั้งในส่วนของการปล่อยสินเชื่อใหม่ และการบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ซึ่งหาก ธพว.ดำเนินการได้ดีตามแผนต่อไปให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจพิจารณาให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ทำหน้าที่กำกับและติดตามการดำเนินงานของ ธพว.ตามปกติ ขณะที่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (iBank) มีผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าเป้าหมาย และให้เร่งเจรจาพันธมิตรให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.60 ก่อนที่จะมีการเพิ่มทุน

นายเอกนิติ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ กำชับให้กระทรวงเจ้าสังกัดคอยกำกับและติดตามการดำเนินงานในด้านต่างๆ ของรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นไปตามมติของ คนร. พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายตามแผนการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ เป็นตัวชี้วัด (KPI) ของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงต้นสังกัดด้วย เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับทราบความคืบหน้าของร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อยืนยันร่าง พ.ร.บ.ภายในสิ้นเดือน เม.ย.60 ก่อนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ