ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.38/40 แกว่งแคบไร้ปัจจัยชี้นำตลาด คาดกรอบพรุ่งนี้ 34.35-34.45

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 25, 2017 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.38/40 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า เล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.35 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาชี้นำตลาด โดยระหว่างวันเงินบาท เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.35-34.42 บาท/ดอลลาร์ และหากพรุ่งนี้ไม่มีเหตุการณ์พิเศษเข้ามาเพิ่มเติมก็เชื่อว่าเงินบาทน่าจะยัง แกว่งอยู่ในกรอบแคบเช่นเดิม

"บาทวันนี้แกว่งแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยชี้นำตลาด ซึ่งหากไม่มีเหตุอะไรเข้ามาเพิ่มเติม บาทก็น่าจะแกว่งแคบๆ แบบนี้ เว้นแต่จะมีสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ เรื่องการทดสอบอาวุธ" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.35 - 34.45 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.34/37 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.91 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0882/0884 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0864 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,562.27 จุด ลดลง 2.39 จุด (-0.15%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 46,297 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,138.87 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จากข้อมูลการส่งออกสินค้าของไทยในในไตรมาสแรกของปี 2560 จะเห็นว่าแรงหนุนของ
การส่งออกไทยยังมาจากทางด้านผลของราคาเป็นสำคัญ ในขณะที่ผลทางด้านปริมาณเพิ่งเริ่มจะเห็นสัญญาณบวก จึงอาจจะยังต้อง
ติดตามทิศทางการส่งออกสินค้าไทยอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ หากการส่งออกสินค้าศักยภาพของไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอาหาร, เครื่องใช้
ไฟฟ้า, สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสินค้ากลุ่มยานยนต์ ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตที่ต่อเนื่องได้ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความ
ต้องการสินค้าไทยในเชิงปริมาณ ก็น่าจะทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2560 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวสูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่
2.0%
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดจะเห็นการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทยได้อย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เมื่อ
กิจกรรมการลงทุนและการเบิกจ่ายงบประมาณเดินหน้าลงสู่ท้องถิ่นและระบบเศรษฐกิจมากขึ้นตามลำดับ ตลอดอานิสงค์จากการค้า
ระหว่างประเทศที่ให้ภาพเชิงบวกมากขึ้น ซึ่งน่าจะหนุนความต้องการสินเชื่อจากภาคธุรกิจ ทั้งจากสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนในประเทศ
Trade Finance ตลอดจนสินเชื่อเพื่อการลงทุน เช่นในธุรกิจก่อสร้าง เป็นต้น
  • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เผยภาพรวมตลาดตราสารหนี้ปีนี้ คาดมูลค่าการออกตราสารหนี้โดยรวม
จะไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ราว 8 แสนล้านบาท เนื่องด้วยเป็นการเติบโตจากฐานที่สูงในปีก่อนที่มีการออกตราสาร
ของ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เพื่อรองรับการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมลงนามในบันทึกความตกลงการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์กับกรมบังคับคดี
เพื่อให้ ธปท.ในฐานะนายทะเบียนตราสารหนี้ ตรวจสอบและอายัดตราสารหนี้ของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ที่ได้รับจากกรมบังคับ
คดีได้รวดเร็วขึ้น โดยการอายัดตราสารหนี้ตามความตกลงนี้ครอบคลุมถึงการระงับการจำหน่าย จ่าย โอนตราสารหนี้ของบุคคลผู้ถือ
กรรมสิทธิ์ดังกล่าว
  • ทางการจีนเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานใหม่ในไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 3.34 ล้านตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียว
กันของปีก่อน 160,000 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานจีน ส่วนอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 3.97% ลดลง
0.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานจีน
  • นักวิเคราะห์จากเอชเอสบีซี (HSBC) คาดการณ์ว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะเป็นตัวชี้ชะตาค่าเงินยู
โร ซึ่งหากนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ก็จะถือเป็นปัจจัยเอื้ออำนวยต่อค่า
เงินยูโร
  • นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า จะมีการ

เปิดเผยในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้นักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 27 เม.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ