นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 34.43 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.38/40 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังมีปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ ประกาศออกมาค่อนข้างดี
"บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนออกมาค่อนข้างดี" นักบริหารเงิน
ระบุ
สำหรับวันนี้ คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.35-34.45 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนรอดูการแถลง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์คืนนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.24 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.34/37 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0884 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.3720 บาท/
ดอลลาร์
- รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังกลับจากการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลกครั้งที่ 95 ที่ประเทศสหรัฐ
ว่า ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แสดงความเป็นห่วงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในระยะ 10 ปีข้าง
หน้า ที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ขณะที่ประชากรในประเทศไทยมีรายได้อยู่ในระดับต่ำ อาจจะทำให้มีปัญหา ไม่เหมือนกับกรณีประเทศ
ญี่ปุ่นที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาระยะหนึ่งแล้ว แต่รายได้ของประชากรค่อนข้างสูง โดยรัฐบาลรับข้อเสนอและพร้อมที่จะดำเนินการจริงจัง
- กระทรวงการคลังเตรียมยกเครื่องกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจใหม่ หลังธนาคารโลกแสดงความเห็นกฎหมายยังไม่
เป็นสากล ไม่ครอบคลุมการทำธุรกิจอีกหลายเรื่อง หวั่นกระทบการจัดอันดับ Doing Business
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า กรณีปัญหาการผิดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) ของ
บริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายแห่งในปี 2559 ส่งผลให้ บจ.หน้าใหม่หลายแห่งที่ต้องการระดมเงินด้วยการออกตราสารหนี้ ให้
สถาบันจัดอันดับเครดิตจัดอันดับเครดิตหรือเรตติ้งมีเพิ่มขึ้น แม้อันดับเครดิตที่ได้ออกมาต่ำกว่าระดับที่น่าลงทุนก็ยอม เพื่อเป็นการเปิด
เผยข้อมูลของบริษัทให้นักลงทุนได้รับทราบถือเป็นครั้งแรกที่มีสถานการณ์แบบนี้
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์
รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
- นางคริสตีน ลาการ์ด ผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เศรษฐกิจโลกในปี
นี้กำลังฟื้นตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะเติบโต 3.5% ในปี 2560 อย่างไรก็ดี การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในระยะปานกลางยัง
มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ (downside risks) ได้แก่ ปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นโยบายปกป้องทางการค้า (Inward
looking policies) รวมถึงผลิตภาพของแรงงาน (labor productivity) ที่มีแนวโน้มลดลง โดย IMF ได้แนะนำให้ประเทศ
ต่าง ๆ ดำเนินนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และการปฏิรูปเชิงโครงสร้างควบคู่กัน เพื่อให้รับมือกับปัจจัยเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมี.ค.แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดย
เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 621,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016 หลังจากอยู่ที่ระดับ
587,000 ยูนิตในเดือนก.พ. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.8% สู่ระดับ 583,000 ยูนิตในเดือนมี.ค.
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 เม.
ย.) แม้ว่าสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่แข็งแกร่งเกินคาดการณ์ ขณะที่ยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยแรงหนุนจาก
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในฝรั่งเศส ซึ่งคลายความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป โดยยูโรแข็งค่าขึ้น
เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0938 จากระดับ 1.0854 ดอลลาร์ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยน ที่ระดับ
111.11 เยน จากระดับ 109.79 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับ
สถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ รวมถึงชัยชนะของนายเอมมานูเอล มาครอง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก
และการที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดลองนิวเคลียร์เมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนใน
สินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้นและสกุลเงินยูโร
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีของปธน.ทรัมป์ในวันนี้ โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.
คลังสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการปฏิรูปภาษีจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมาก จนทำให้การขาดดุลงบประมาณสามารถอยู่ภายใต้การ
ควบคุม นอกจากนี้ รมว.คลังสหรัฐยังระบุว่า รัฐบาลมีแผนที่จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่า 3% ต่อปี โดยสูงกว่าระดับ
1.6% ของปีที่แล้วราว 2 เท่า
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
รายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
(pending home sales) เดือนมี.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2560 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อ
การบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 1/2560
- ตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งการแถลงข่าวของนายมาริโอ
ดรากี ประธาน ECB ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังการประชุม