ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.61 อ่อนค่าหลังมีเงินไหลออก ตลาดจับตาการเจรจาออกกม.งบประมาณของสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 27, 2017 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยูที่ระดับ 34.61 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 34.47 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์และเงินทุนไหลออก โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อน ไหวในกรอบ 34.45-34.62 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทอ่อนค่าจากช่วงเช้าไปมาก หลังอ่อนค่าหลุด 34.50 ก็มีแรงเทขายดอลลาร์เพื่อตัดขาดทุน ประกอบกับมี flow ไหลออก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.50-34.65 บาท/ดอลลาร์

"คืนนี้ตลาดรอดูผลประชุมสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวว่าจะมีการชัตดาวน์หรือไม่" นัก
บริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.5883 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.27 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.32 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0898 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0908 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,566.77 จุด ลดลง 0.70 จุด, -0.04% มูลค่าการซื้อขาย 33,299 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 617.03 ล้านบาท(SET+MAI)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยเศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค.60 และไตรมาส 1/60 ส่งสัญญาณขยายตัว
ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกและการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดี ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุน
จากปริมารการจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวได้ในระดับสูงจากปริมาณผลผลิตและ
ราคาสินค้าเกษตรที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง

ขณะที่ สศค.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 60 ขยายตัว 3.6% แม้ว่าการส่งออกจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ดีกว่าที่เคยคาด ไว้ แต่ยังอยู่ในระดับที่ไม่เป็นนัยสำคัญให้ต้องปรับประมาณการ

  • กระทรวงพาณิชย์ ทบทวนมาตรการนำเข้า-ส่งออก เร่งปลดล็อคอุปสรรคทางการค้า โดยให้ส่วนราชการปรับลดขั้น
ตอนในการปฏิบัติงาน และความซ้ำซ้อนในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้ได้รับบริการที่รวดเร็วยิ่ง
ขึ้น
  • รมว.คลัง สั่งการให้ปลัดกระทรวงการคลัง ไปหามาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่าง
เต็มศักยภาพ จากล่าสุดที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ 3.6% นั้น ยังถือว่าเป็น
การเติบโตที่ต่ำกว่าศักยภาพ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าต้องการให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ในระดับ 4% เป็นอย่างน้อย
  • รัฐบาลจะเริ่มดำเนินการแจกสวัสดิการให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2561 หรือวันที่ 1 ต.ค.60 ซึ่ง
คาดว่าต้องใช้งบประมาณปีละ 3 หมื่นล้านบาทเพื่อจัดสวัสดิการให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนไว้
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินเชิงรุก ในการประชุมวันนี้ โดยที่ประชุมได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่
ระดับ -0.1% นอกจากนี้ BOJ ยังได้ปรับเพิ่มแนวโน้มเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2560

ที่ประชุม BOJ ได้เปิดเผยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาส โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีงบประมาณ 2560 จะขยายตัว 1.6% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนเมื่อเดือนม.ค.ที่ระดับ 1.5% และคาดว่า GDP ในปีงบประมาณ 2561 จะขยายตัว 1.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการในเดือนม.ค.ที่ระดับ 1.1%

  • ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เปิดเผยรายงานการทบทวนเศรษฐกิจมหภาครอบครึ่งปี โดยคาดว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์
ในปีนี้จะยังคงขยายตัวอยู่ในระดับปานกลาง
  • สมาคมทองคำจีนเปิดเผยว่า การบริโภคทองคำของจีนในไตรมาสแรกของปี 2560 ปรับตัวขึ้น 14.73% แตะ
304.14 ตัน เนื่องจากยอดขายทองรูปพรรณเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายทองคำแท่งก็พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง
  • รัฐบาลเยอรมนีคาดการณ์ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและอัตราการจ้างงานของประเทศจะขยายตัวดีขึ้น
  • ตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่า ECB จะไม่

ส่งสัญญาณการยุติใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้ แม้ว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส

รอบแรกจะช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลก็ตาม โดยนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB จะมีแถลงภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ