ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.59/60 แกว่งในกรอบแคบก่อนหยุดยาว สัปดาห์หน้าจับตาผลประชุม FOMC

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 28, 2017 16:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.59/60 บาท/ดอลลาร์ จาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.57 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบประมาณ 10 สตางค์ โดยระหว่างวันทำ high สุดที่ระดับ 34.66 บาท/ ดอลลาร์ และ low สุดที่ระดับ 34.55 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งการที่เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบอาจเป็นไปได้ว่าเป็นช่วงใกล้วันหยุด ต่อเนื่อง ลูกค้าสถาบันอาจมีการทำ position ไว้ล่วงหน้าแล้ว

นักบริหารเงิน ระบุว่า สัปดาห์หน้าคงต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาง สหรัฐ (FOMC) ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ค. ซึ่งตลาดคาดว่ารอบนี้จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่คงต้องรอฟังถ้อยแถลงว่าจะ ส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบถัดไปหรือไม่ ทั้งนี้คาดว่าสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.70 บาท/ ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.6108 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.25 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.12 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0915 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0864 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงนโยบายการปรับลด supply ของพันธบัตรระยะสั้นต่อเนื่องจากเดือน
ก่อน โดยกำหนดวงเงินการออกพันธบัตรระยะ 3 และ 6 เดือนไว้ที่ 30,000 ล้านบาทต่อสัปดาห์ ซึ่งแม้จะเป็นปริมาณการออกเท่ากับ
เดือนก่อนหน้า แต่ก็เป็นจำนวนน้อยกว่าพันธบัตรที่ครบกำหนด โดยจากการประเมินเบื้องต้นถือว่าบรรลุผลในการสื่อสารให้ตลาดทราบ
ว่า ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเงินร้อนที่เข้าออกเร็วในระยะสั้น
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค.60 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดย
มีแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกที่ขยายตัวดีในหลายหมวดสินค้า สอดคล้องกับอุปสงค์ต่างประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง การท่องเที่ยวที่กลับมา
ขยายตัวจากเดือนก่อน การบริโภคภาคเอกชนที่มีทิศทางปรับดีขึ้นโดยเฉพาะสินค้าคงทน สอดคล้องกับรายได้ครัวเรือน และความเชื่อ
มั่นที่ปรับดีขึ้น และการใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุน ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนภาคเอกชนยังหดตัว
จากระยะเดียวกันปีก่อน
  • สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจความคิดเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน
พบว่า ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO) ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 60 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต
ประมาณ 3% ถึง 4% ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของธนาคารโลกและธนาคารแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมี.ค.60 อยู่ที่ 124.46
ขยายตัว 12.13% (MoM) แต่ลดลง 0.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน (YoY) โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 67.09%
  • สภาคองเกรสสหรัฐ เตรียมอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงภาวะการขาดแคลน
งบประมาณในการบริหารประเทศ อันจะนำไปสู่การปิดทำการหน่วยงานของรัฐบาลหรือชัตดาวน์

ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่ให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวดังกล่าวภายในเส้นตายเวลาเที่ยงคืนของวันพรุ่ง นี้ตามเวลาสหรัฐ ก็จะส่งผลให้มีการปลดข้า ราชการจำนวนหลายล้านคนเป็นการชั่วคราว และปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วน เนื่องจากขาดงบประมาณในการว่าจ้างพนักงาน

  • สำนักงานสถิติฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ปรับ
ตัวเพิ่มขึ้น 0.3% จากไตรมาสที่ผ่านมา ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของฝรั่งเศสชะลอตัวกว่าคาดการณ์นั้น มีผลมาจากความไม่แน่นอนทาง
การเมือง เนื่องจากขณะนี้ฝรั่งเศสกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส
1/2560 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 1/2560
  • นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาประเทศไทย ซึ่ง

ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย. รวมถึงตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและ

ภาคบริการเดือนเม.ย.โดยไฉซิน ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์หน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ