"อภิรดี" ผลักดันพาณิชย์ไปสู่ SMART MINISTRY หนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกิจดิจิทัล

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday April 29, 2017 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงทิศทางการพัฒนาดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปี 2560-2564 ว่า กระทรวงพาณิชย์มีภารกิจในการพัฒนาผู้ประกอบการ พัฒนาระบบการค้าให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การเสริมสร้างบทบาทของผู้บริโภคเพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับผู้ค้า การพัฒนาแอพพิเคชั่นเพื่อให้บริการกับผู้ประกอบการและประชาชน พัฒนาช่องทางการร้องเรียนให้มีความสะดวกรวดเร็ว ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายผู้บริโภคโดยใช้ Social Network และบูรณาการกับระบบการค้าโลก ผลักดันการทำงานทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

การพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลของกระทรวงพาณิชย์มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen Centric) นำเสนอรูปแบบและบริการที่ทันสมัยหลากหลายช่องทาง สร้างความร่วมมือในการใช้ข้อมูลร่วมกัน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Supporting Infrastructure) การพัฒนาและบริหารจัดการภายในหน่วยงาน การพัฒนาระบบการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้บริโภค ภายใต้วิสัยทัศน์การทำงาน "ฉับไว โปร่งใส มองไกล ใกล้ชิดประชาชน" โดยเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าและการส่งออก การส่งเสริมธุรกิจบริการ การส่งเสริมและพัฒนาการใช้ช่องทางการค้า E-Commerce

รวมทั้งเร่งผลักดันการส่งออกในทุกภูมิภาคโดยเร่งผลักดันเชื่อมโยงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เป็นรายคลัสเตอร์ ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวผ่านกลยุทธ์ Strategic Partnership เน้นการผลิตสินค้าที่ให้ผลตอบแทนสูง เจาะตลาดกลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง รวมทั้งใช้ Digital Marketing ทั้งของไทย (Thaitrade.com) เชื่อมโยงกับ Global และ Local Platform ผลักดันการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ และขยายลู่ทางตลาดใหม่ให้กับสินค้าที่มีศักยภาพโดยมุ่งพัฒนากระทรวงพาณิชย์เข้าสู่ความเป็นองค์กรดิจิทัลหรือ SMART MINISTRY

"ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ได้ให้บริการผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปในด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านธุรกิจการค้า การทำธุรกรรมออนไลน์ การนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) การให้บริการหนังสือสำคัญนำเข้าส่งออกสินค้า หนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origine) ทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวก รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลต่อไป" นางอภิรดี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ