"ไทย ไปป์ไลน์ฯ"เดินหน้าขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปอีสาน เล็งรุกต่อไปลาว-จีนตอนใต้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 23, 2017 16:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เอสซี กรุ๊ป กล่าวว่า วันนี้บริษัทได้ลงนามสัญญาความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) เพื่อเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันของแทปไลน์ที่จ.สระบุรี รองรับการดำเนินโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการในส่วนต่อขยายดังกล่าว ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าในส่วนของการออกแบบระบบท่อขนส่งน้ำมันแล้วเสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงส่วนของคลังน้ำมันที่ต้องมีการปรับแบบเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับพื้นที่ก่อสร้างจริง

ขณะที่การจัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก็ได้เริ่มเข้าแนะนำโครงการและประสานงาน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่เส้นทางท่อจะวางผ่าน อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด พลังงานจังหวัด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและตระหนักถึงประโยชน์ของโครงการที่จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค การจ้างแรงงานในท้องถิ่น

พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังได้ประสานกับหน่วยงานของแต่ละจังหวัดเพื่อจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในส่วนของการจัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ประมาณ 15-18 เดือน และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 62 แล้วเสร็จภายในปี 65 คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนคลังน้ำมัน 4 พันล้านบาท และเงินลงทุนท่อ 8 พันล้านบาท

นอกจากการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านการก่อสร้างแล้ว บริษัทยังได้เข้าหารือกับกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเพื่อหาแนวทางการส่งเสริมปริมาณน้ำมันส่งออกทางท่อในภูมิภาค เช่น เขตปลอดภาษีอากรหรือการขยายจุดจัดเก็บภาษี (Tax Point) ปลายท่อ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาค

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันอยู่ที่ 2.7 พันล้านลิตร/วัน และคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเติบโตขึ้นเป็น 3.3 พันล้านลิตร/ปีในอีก 10 ปีข้างหน้า

“การขนส่งน้ำมันเพื่อส่งออกผ่านระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ นับเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย ดังนั้นจึงควรต้องมีการศึกษาร่วมกันหลายๆฝ่าย ทั้ง กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน เพื่อกำหนดแนวทางการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม ได้ดุลการค้า และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยเบื้องต้นกับทั้งสองหน่วยงานต่างก็เห็นด้วยว่าควรมีการศึกษาถึงเรื่องนี้อย่างเต็มรูปแบบ"นายณัฐพงษ์ กล่าว

อนึ่ง โครงการท่อส่งน้ำมันเส้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น จะเป็นการต่อขยายจากระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อเดิมของแทปไลน์ ที่คลังน้ำมันอ.เสาไห้ จ.สระบุรี และมีคลังน้ำมันปลายทางที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เป็นระยะทาง 350 กิโลเมตร ใช้ท่อน้ำมันขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 นิ้ว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนขยายท่อส่งน้ำมันไปยังสปป.ลาว และจีนตอนใต้ ปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งออกน้ำมันทางรถบรรทุกไปยัง สปป.ลาว อีกทั้ง สปป.ลาว มีการส่งออกน้ำมันต่อไปยังประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งที่ผ่านบริษัทได้เข้าหารือกับผู้ค้าน้ำมันทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเพื่อนำเสนอโครงการและข้อมูลเชิงพาณิชย์ที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าน้ำมันจาก สปป.ลาวและประเทศจีน ที่มีความสนใจโครงการของบริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือรายละเอียดเพื่อนำไปสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงในเร็วๆนี้

ในส่วนของการศึกษาขยายลงทุนในสปป.ลาว ได้มีการเซ็น MOU เบื้องต้นไปแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนโรงการลงทุนภายในไตรมาส 3/60 ขณะที่การขยายท่อส่งน้ำมันไปยังจีน อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษารายละเอียดลงนาม MOU กับบริษัทน้ำมันรัฐวิสาหกิจของจีนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ