รมช.เกษตรฯ กำชับสหกรณ์ทำโซล่าฟาร์ม ระยะที่ 2 ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์-โปร่งใส

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 31, 2017 13:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซล่าฟาร์ม) ในส่วนของสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 ว่า โครงการฯ ดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างความยั่งยืนในพลังงานไฟฟ้าของประเทศ โดยรัฐบาลได้มอบสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของโครงการให้แก่สหกรณ์ภาคการเกษตร ได้แก่ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคม และสหกรณ์ประมง ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ในรอบปี 2559 ซึ่งสหกรณ์ที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ให้เข้าร่วมโครงการและรับทราบประกาศ และระเบียบของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และสถานที่ตั้งโครงการจะต้องตั้งอยู่ในที่ดินที่สหกรณ์เป็นเจ้าของ หรือที่ดินที่สมาชิกสหกรณ์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย เพื่อใช้ดำเนินการ

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีเป้าหมายของการรับซื้อไฟฟ้าของสหกรณ์ภาคการเกษตรรวม 119 เมกกะวัต์ (MW) โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินโครงการใน 36 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 16 จังหวัด จำนวน 19 MW, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด จำนวน 50 MW และภาคใต้ 11 จังหวัด จำนวน 50 MW ซึ่งทาง กกพ.ได้มีการประชุมชี้แจงโครงการไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งจะเปิดรับสมัครสหกรณ์ที่จะเข้าร่วมโครงการระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-2 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการในวันที่ 5-13 มิ.ย.60 และจะประกาศรายชื่อสหกรณ์ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ โดยการปิดประกาศที่สำนักงาน กกพ. และทางเว็บไซด์ www.erc.co.th แล้วจะมีการคัดเลือกสหกรณ์ที่จะเข้าร่วมโครงการด้วยวิธีการจับสลากในวันที่ 26 มิ.ย.นี้

ด้านนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากการประกาศว่ามีสหกรณ์ใดผ่านการคัดเลือกแล้ว สหกรณ์นั้นต้องไปสรรหาผู้สนับสนุนโครงการ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-9 ต.ค.60 ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีหนังสือแจ้งไปยังสหกรณ์จังหวัด เพื่อให้ดำเนินการชี้แจงเกี่ยวกับคำแนะนำสหกรณ์ภาคการเกษตรที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.60 โดยแนะนำให้สหกรณ์จัดหาผู้สนับสนุนโครงการอย่างเปิดเผย โดยดำเนินการตามข้อบังคับหรือวิธีปฏิบัติของสหกรณ์ และให้สหกรณ์คิดค่าตอบแทนจากการใช้สิทธิ์ในการขายไฟฟ้าจากผู้สนับสนุนโครงการ ในอัตราร้อยละของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน/ปี รวมถึงให้สหกรณ์จัดทำสัญญากับผู้สนับสนุนโครงการ โดยใช้ร่างสัญญาที่กรมส่งเสริมสหกรณ์แนะนำเป็นต้นแบบ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่ขัดกับระเบียบหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงผลประโยชน์ของสหกรณ์เป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดให้สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการนำรายได้ที่เกิดจากค่าใช้สิทธิ์ในการขายไฟฟ้า จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่สมาชิกและสังคม เนื่องจากค่าตอบแทนจากค่าใช้สิทธิ์ในการขายไฟฟ้า ไม่ถือเป็นรายได้จากการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้กำชับให้สหกรณ์จังหวัดที่มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใส เพื่อประโยชน์แก่สมาชิกโดยทั่วถึงอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินโครงการฯแก่บุคลากรของสหกรณ์ เพื่อให้เกิดการยอมรับจากทุกภาคส่วนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ