ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.07 จับตาการเมืองสหรัฐฯ-ปัจจัยน้ำมัน มองกรอบวันนี้ 34.00-34.15

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 1, 2017 09:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์ จากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.03/07 บาท/ดอลลาร์

"ล่าสุดเงินบาทขยับอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ 34.10 บาท/ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ปัจจัย ราคาน้ำมันหลังเกิดความกังวลว่าจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)" นัก บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.00-34.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.91 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.90 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1243 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0790 บาท/
ดอลลาร์
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เตือนภาคเอกชนเร่งพัฒนาระบบป้องกันการคุก
คามธุรกิจทางออนไลน์ แนะร่วมมือ ISP รับแบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยลดต้นทุนเอสเอ็มอีหนุนเอกชนลงทุนเพิ่ม
  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มั่นใจสินเชื่อรายย่อยปล่อยใหม่เติบโตตามเป้าที่ร้อยละ 20 หรือ อยู่ที่
24,000 ล้านบาทจากยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 59 ที่ 18,000-19,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อไปแล้ว
9,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าสินเชื่อรายย่อยปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสินเชื่อรายย่อยธนาคารแบ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล
ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท โดยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลไปแล้ว 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะ
เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่อยู่ 12,000 ล้านบาท
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่จัดตั้งเป็นชมรมธุรกิจท่อง
เที่ยวออนไลน์(ประเทศไทย) ประกอบด้วยธุรกิจให้บริการ, แหล่งท่องเที่ยว, สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกว่า 44 ราย แก้ไขกรณีที่ตลาด
นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเอง(เอฟไอที) จากจีนเริ่มมีปัญหาปัญหาจากออนไลน์ทราเวลเอเย่นต์(โอทีเอ) ที่มีการตัดราคาหน้าเว็บ
ในราคาต่ำกว่าทุนอย่างเป็นรูปธรรม
  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ปรับตัวขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็น
รายปี ตัวเลขการลงทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นจะมีผลต่อการทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1 โดย
รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดเผยจีดีพีประจำไตรมาส 1 ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
(pending home sales) ลดลง 1.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น และสต็อก
บ้านในระดับต่ำ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดย
ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.และพ.ค. ในขณะที่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และแรงกดดัน
ด้านราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เฟดระบุในรายงานว่า "เศรษฐกิจในเขตส่วนใหญ่ยังคงขยายตัวในอัตราพอประมาณหรือปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.ถึง เดือนพ.ค. โดยเศรษฐกิจเขตบอสตันและชิคาโกขยายตัวช้าลงสู่ระดับปานกลาง ขณะที่เขตนิวยอร์กอยู่ในภาวะทรงตัวในช่วงเดือนเม. ย.ถึงพ.ค.

ทั้งนี้ การเปิดเผยรายงาน Beige Book มีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. ซึ่งตลาด คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) จาก
ความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ
1.1244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1186 ดอลลาร์ ในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.62 เยน จากระดับ
110.76 เยน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอก
จากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ และตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์
ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP,
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิต
เดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาค เกษตรเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ