นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.01/03 บาท/ดอลลาร์ จาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.00/01 บาท/
"ทิศทางวันนี้น่าจะมีโอกาสแข็งค่าเล็กน้อย โดยหลังจากนี้ตลาดน่าจะรอผลประชุม FOMC ซึ่งรอบนี้น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย แน่นอน" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.95-34.04 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.53/54 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1272 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1264/1265 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0280 บาท/
ดอลลาร์
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า การผ่อนคลายเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ประกาศเกณฑ์ใหม่สำหรับการควบคุมการเปลี่ยนเงิน เนื้อหาโดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงินที่อยู่ภายใต้
การกำกับดูแลของธปท. เพื่อให้เท่าทันสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงิน และเพิ่มความสะดวกให้กับการโอนเงินและ
การประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ มีส่วนช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจไทย
- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจว่าดัชนีภาคบริการของ ISM ขยายตัวที่ระดับ 56.9
ในเดือนพ.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 57.5 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.2% สู่ระดับ 4.69 แสนล้านดอลลาร์ ใน
เดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน อีกทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐยังเพิ่มขึ้นเพียง 138,000
ตำแหน่งในเดือนพ.ค. น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 มิ.
ย.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวเป็นเดือนที่ 89 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ
ดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1252 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1277 ดอลลาร์ และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.49
เยน จากระดับ 110.48 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เนื่องสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั่ว
โลก รวมทั้งเหตุการณ์โจมตีกรุงลอนดอนที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ
สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.
- นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อดูว่า
ECB จะส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่