ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.04/06 รอผลเลือกตั้งอังกฤษอย่างเป็นทางการ-การประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 9, 2017 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.04/06 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.03/05 บาท/ดอลลาร์

"เช้านี้บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย ทรงตัวรอปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

ตลาดรอดูผลเลือกตั้งของอังกฤษในช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ รวมถึงคำให้การของอดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอที่จะมีผลต่อตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 13-14 มิ.ย.60

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.95-34.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 110.09/12 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.10/12 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1189/1193 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1235/1237 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0420 บาท/
ดอลลาร์
  • รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีปัญหาค่าเงินบาทที่มีความผันผวนขณะนี้ว่า สาเหตุมาจากตลาดเงินหลักยังมีความไม่มั่นคง นัก
ลงทุนจึงย้ายเงินทุนมาในไทย ซึ่งเป็นตลาดเงินทุนใหม่ที่มีความมั่นคงสูง จึงส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยเรื่องนี้ธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีมาตรการต่างๆ ออกมา เช่น การลดปริมาณการออกพันธบัตร
ระยะสั้น เพื่อไม่ให้มีการเก็งกำไรหรือเกิดการผันผวนมากเกินไปอย่างไรก็ดี ยืนยันว่ากระทรวงการคลังจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำ
งานของ ธปท.
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ร่วมกับศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศึกษานโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา จากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ
ได้ออกคำสั่งพิเศษ (เอ็กเซ็กคูทีฟ ออเดอร์) เพื่อตรวจสอบและเพ่งเล็งดุลการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ 16 ประเทศที่สหรัฐ
ขาดดุลการค้า รวมประเทศไทยด้วย ผลปรากฏว่าอุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าส่งออกของไทยส่วน
มากเป็นสินค้าที่สหรัฐมีการผลิตในประเทศน้อย จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากไทยอยู่
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับคณะที่ปรึกษาการลง
ทุนจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส โดย สศช.ได้ให้ข้อมูลไปว่า เศรษฐกิจไทยมีพัฒนาการในทิศทางที่ดี
ขึ้นตามลำดับอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจและในด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมทั้งมีความพร้อมมากขึ้น
สำหรับการที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มการขยายตัวที่น่าพอใจในระยะปานกลาง โดยในปี 60 นี้ สศช. คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 3.3-
3.8% โดยมีค่ากลางที่ 3.5% ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี
  • ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ECB ยังได้
ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น โดย ECB จะใช้มาตรการ
QE ไปจนกระทั่งทิศทางของเงินเฟ้อมีความยั่งยืน
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย ใน
สัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 245,000 ราย โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่
118 ติดต่อกัน
  • นักลงทุนคลายกังวลต่อคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า
คำให้การนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ และจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบาย
เศรษฐกิจในวันข้างหน้า
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) หลัง
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ECB ยังได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการ
ขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้แรงหนุน หลังนักลงทุนเริ่ม
คลายความวิตกเกี่ยวกับคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ต่อวุฒิสภาเมื่อวาน
นี้

โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1222 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1257 ดอลลาร์ และดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.91 เยน จากระดับ 109.82 เยน

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น
เมื่อเทียบกับยูโร หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณขยายเวลาใช้มาตรการผ่อนคลาย
เชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้
  • ตลาดรอดูผลการเลือกตั้งในอังกฤษอย่างใกล้ชิด หลังเอ็กซิทโพลล์เผยพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เม
ย์ อาจไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ ผลเอ็กซิทโพลล์โดย BBC, ITV และ Sky บ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมอาจได้ที่นั่ง
ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 314 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่พรรคแรงงานของนายเจเรมี คอร์บินจะได้ 266 ที่นั่ง มาก
ขึ้นจาก 229 ที่นั่งในช่วงก่อนการเลือกตั้ง

การเมืองอังกฤษมีแนวโน้มเกิดภาวะ "Hung Parliament" หรือการที่ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถครองเสียงข้าง มากในสภาสามัญชนได้ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จ หลังผลเอ็กซิทโพลล์ ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเร ซา เมย์ อาจคว้าที่นั่งส.ส.ได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของสภา โดยได้เพียง 314 ที่นั่ง จากเดิมที่เคยมีอยู่ 330 ที่นั่งในช่วงก่อนที่จะมีการยุบ สภา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ