ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.07 อ่อนค่าจากช่วงเช้า จับตาสัญญาณดอกเบี้ยของสหรัฐฯในการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 9, 2017 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคาร กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดเช้า นี้ที่ระดับ 34.04/06 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.04-34.09 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์กลับมาแข็ง ค่า เนื่องจากผลเลือกตั้งของอังกฤษไม่เป็นไปตามเอ็กซิทโพลล์

"บาทอ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่าในช่วงสั้นๆ หลังผลเลือกตั้งอังกฤษออกมา surprise ไม่เป็นไป ตาม exit poll" นักบริหารเงิน กล่าว

สัปดาห์หน้าตลาดจับตาดูผลประชุมของคณะกรรมการการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เกี่ยวกับการ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 33.80-34.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 110.37 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.09/12 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1178 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1189/1193 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,566.65 จุด ลดลง 3.63 จุด, -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 45,114.60 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,143.66 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดว่าในสัปดาห์หน้า(12-16 มิ.ย.)เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.00-34.50
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ซึ่งคาดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อีก 0.25%
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยผลการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 8 มิ.
ย.60 ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ ชนะการเลือกตั้ง โดยเบื้องต้นได้รับคะแนนเสียง 313 ที่นั่ง ลดลงจาก
330 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อน ทำให้ไม่เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวทางการเจรจาเพื่อ
ออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปแบบสมบูรณ์ (Hard Brexit) ในระยะสั้นอาจจะทำให้ตลาดเงินตลาดทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้น และค่าเงิน
ปอนด์มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งต้องรอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายด้านต่างๆ
  • สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มองการกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 61 ของรัฐบาลไว้ที่ 2.9 ล้าน
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.1% ซึ่งเป็นงบประมาณแบบขาดดุล ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
  • กระทรวงการคลัง จะสรุปมาตรการช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่ผู้มีรายได้น้อยจำนวนกว่า 14 ล้านคนที่ลงทะเบียนเพื่อ
สวัสดิการแห่งรัฐได้ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
เพื่อช่วยเหลือสวัสดิการค่าสาธารณูปโภค เช่น น้ำฟรี ไฟฟรี และค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่างๆ ส่วนอีก 5 หมื่นล้านบาทที่จะจัดตั้ง
กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพื่อใช้ดูแลผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี ซึ่งเป็นระดับรายได้ที่ต่ำกว่าเส้นความยากจน
  • ผลนับคะแนนการเลือกตั้งอังกฤษจากทั้งหมด 650 ที่นั่ง พรรคอนุรักษ์นิยมได้ 318 ที่นั่ง พรรคแรงงานได้ 261 ที่
นั่ง และพรรคอื่นๆ ได้ 71 ที่นั่ง ทำให้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่
ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ทำให้การเจรจาต่อรองเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) คาดจะล่าช้าเกินกว่า
2 ปี ในขณะที่การเจรจา Brexit กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 19 มิ.ย.
  • เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป (EU) ได้แสดงความกังวลว่า การเจรจาข้อตกลงในการถอนอังกฤษออกจากสหภาพ
ยุโรป หรือ Brexit นั้นอาจต้องล่าช้าออกไปจากกำหนดการเดิม
  • นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า ไม่มีแผนที่จะลาออกจากตำแหน่ง แม้ผลเอ็กซิทโพลล์ระบุว่า พรรค
อนุรักษ์นิยมอาจจะไม่ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอังกฤษ
  • ธนาคารกลางฝรั่งเศสปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สู่ระดับ 1.4% ใน
ปีนี้ และ 1.6% ในปี 2561 จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา ที่ระดับ 1.3% และ 1.4% ตามลำดับ โดยคาดว่าอุปสงค์
จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฝรั่งเศสให้เติบโตอย่างสมดุล
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ
ปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนพ.ค. เทียบเป็นรายปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ