BOI เตรียมนำ SMEs ลงพื้นที่เขตพัฒนาศก.พิเศษแม่สอด สร้างเครือข่ายธุรกิจร่วมกับเมียนมา-อินเดีย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 21, 2017 11:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจษฎา ศรศึก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไออยู่ระหว่างเดินหน้าตามแผนงานส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีโอกาสสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันและสามารถต่อยอดธุรกิจไปสู่การผลิตซึ่งรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล

โดยระหว่างวันที่ 17-21 ก.ค.60 บีโอไอจะนำคณะเอสเอ็มอีจำนวน 35 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป, สิ่งทอ, พลาสติก และวัสดุก่อสร้าง ร่วมเดินทางไปจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จ.กำแพงเพชร เช่น บริษัท ไทยเอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์พลังงานและระบบบำบัดน้ำเสียให้กับอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม, บริษัท โหย่ง จิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังจะได้เข้าสำรวจพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อ.แม่สอด จ.ตาก และรับฟังบรรยายสรุปภาวะการค้าชายแดน และความคืบหน้าในการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด้วย

นายเจษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะเอสเอ็มอีจะได้เข้าไปศึกษาศักยภาพเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของจังหวัดเมียวดี ในสหภาพเมียนมา และสำรวจเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมระหว่าง อ.แม่สอด จ.ตาก ของประเทศไทยไปยังประเทศเมียนมา และอินเดีย ซึ่งเป็นเส้นทางที่รัฐบาลของแต่ละประเทศให้ความสำคัญ และคาดการณ์ว่าเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นเส้นทางเชื่อม 3 ประเทศ และสนับสนุนนโยบาย "มองตะวันออก" (Look East Policy) ของอินเดียที่ต้องการเข้ามาค้าขายและลงทุนในไทยและอาเซียน ในขณะที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาค และได้ใช้ประโยชน์จากเส้นทางนี้เพื่อขยายการค้าการลงทุนไปยังเมียนมา และอินเดีย และเชื่อมต่อไปยังตะวันออกกลางต่อไป

"กิจกรรมครั้งนี้ จะทำให้ SMEs ของไทยได้ลงพื้นที่จริง เพื่อศึกษาลู่ทางการลงทุนและขยายตลาดสินค้า เพื่อรองรับการพัฒนาของทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งปัจจุบันสินค้าไทยมีโอกาสค่อนข้างมาก เนื่องจากประชากรของเมียนมาและอินเดียมีความนิยมสินค้าไทย ทั้งด้านคุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล โดยเมื่อโครงการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวแล้วเสร็จในอีก 1-2 ปีข้างหน้า มั่นใจจะทำให้ SMEs ไทยขยายตลาด และวางแผนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้อีกมาก" นายเจษฎา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ