(เพิ่มเติม) พาณิชย์ เผย พ.ค.60 ส่งออกโต 13.2% สูงสุดรอบ 52 เดือน, นำเข้าโต 18.2% เกินดุล 944 ล้านดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 22, 2017 16:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน พ.ค.60 การส่งออกมีมูลค่า 19,944 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 13.2% สูงสุดในรอบ 52 เดือน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 19,000 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 18.2% ส่งผลให้ดุลการค้า พ.ค.เกินดุล 944 ล้านดอลลาร์ สรอ.

"การส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม 2560 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 52 เดือน ที่ 13.2% หรือคิดเป็นมูลค่า 19,944 ล้านดอลลาร์ สรอ.ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยการส่งออกขยายตัวดีขึ้นในทุกตลาดสำคัญ และขยายตัวในระดับสูงในทุกกลุ่มสินค้า" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

ทั้งนี้ส่งผลให้ภาวะการค้าระหว่างประเทศในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) การส่งออกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 93,265 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 7.2% สูงสุดในรอบ 6 ปี ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 88,211 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 15.2% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลรวม 5,054 ล้านดอลลาร์ สรอ.

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนพ.ค.60 ขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยพบว่าการส่งออกขยายตัวดีขึ้นในทุกตลาดที่สำคัญ และขยายตัวในระดับสูงในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่เติบโตต่อเนื่องทั้งด้านราคาและปริมาณ เช่น ยางพารา น้ำตาลทราย ผัก ผลไม้สดแช่แข็ง เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการแข่งขันและความสามารถในการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้ สำหรับการส่งออกไปยังตลาดหลักที่สำคัญยังคงขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกไปยังตลาดหลักขยายตัวถึง 15.2% ตลาดศักยภาพสูง ขยายตัว 20% โดมีสาเหตุสำคัญจากการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องขอตลาดจีน ในขณะที่ตลาดศักยภาพระดับรอง ขยายตัวได้ 6.3% โดยเฉพาะการส่งออกไปตะวันออกกลางที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 38 เดือน น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกของไทยในปีนี้ว่า มีทิศทางการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5% โดยมีปัจจัยบวกสำคัญจากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าที่สำคัญมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญ และราคาสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันอยู่ในระดับที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์จะยังคงเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไว้ตามเดิมที่ 5% แม้ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะออกมาระบุว่ามีโอกาสที่การส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบโตได้ถึง 2 หลักก็ตาม เนื่องจากตัวเลขการส่งออกล่าสุดในเดือนพ.ค.ที่ออกมาเติบโตได้สูงนั้น เพราะยังไม่ได้รับผลกระทบของภาวะเงินบาทแข็งค่า เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีการสั่งซื้อและตกลงราคากันไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นจึงต้องรอดูสถานการณ์การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ไปด้วย เพราะการเติบโตของการส่งออกในช่วงครึ่งหลังปีนี้อาจไม่ได้สูงมาก เนื่องจากในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีฐานที่สูง "สนค.ยังไม่ปรับประมาณการส่งออก เพราะต้องดูปัจจัยหลัก 2 ตัวคือ ค่าเงินบาท ซึ่งเงินบาทก็ไม่น่าห่วงมากเพราะเป็นปัจจัยระยะสั้น ส่วนราคาน้ำมันก็ขึ้นๆ ลงๆ ถ้าจะปรับคงต้องดูเรื่องราคาน้ำมันเป็นหลัก แต่ตอนนี้จะยังไม่มีการปรับ...ทั้งปีน่าจะยังใช้เป้าหมายที่ 5% แต่ครึ่งปีหลังการเติบโตอาจจะไม่ดีเท่านี้ ต้องทำใจไว้ล่วงหน้า คงต้องปรับเข้าสู่สภาพความเป็นจริง" น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว พร้อมระบุว่า ในเรื่องของเงินบาทแข็งค่านั้นจะเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้นที่เข้ามากระทบต่อการส่งออกของไทย แต่เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสามารถดูแลได้ ในขณะที่ผู้ประกอบการเองก็ควรเตรียมรับมือด้วยการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้วย อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าเช่นนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการจะใช้จังหวะนี้ในการนำเข้าสินค้าทุนหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศ เพราะจะทำให้มีต้นทุนที่ถูกลง น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกของไทยที่ควรต้องให้ความสำคัญ คือ ควมเสี่ยงจากความไม่ชัดเจนของนโยบายกีดกันทางการค้า, ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และความชัดเจนในการปรับลดวงเงินถือครองทรัพย์สินของสหรัฐ "สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน และเพิ่มความไม่แน่นอนของการค้า และการลงทุนของโลกในระยะต่อไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งดำเนินการทุกรูปแบบ เพื่อให้การส่งออกสินค้าของไทยขยายตัวได้ใกล้เคียงเป้าหมายให้มากที่สุด" ผู้อำนวยการ สนค.ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ