นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายในงาน Thailand's Strategic Move ว่า ประเทศไทยในขณะนี้เข้าสู่ระยะมั่นคงและมีการเติบโตมากขึ้น โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลถือว่าเป็นช่วงของการเริ่มต้น ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโต (GDP) เฉลี่ยที่ 0.8% และสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอดในอดีต คือ การอัดฉีดเม็ดเงินไปยังภาคเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เช่น ภาคเกษตร ,SME เป็นต้น รวมถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้สามารถทรงตัวอยู่ได้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังมีการปฏิรูปทั้งการศึกษาและเศรษฐกิจ ส่งผลให้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น และเป็นฐานให้ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต โดยสิ่งที่รัฐบาลยังคงต้องดำเนินการต่อไป คือ การลงทุนภาครัฐ, การเชิญชวนให้ภาคเอกชนมีการลงทุนตาม และพัฒนาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นตลาดทุนที่น่าลงทุน
ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่ายังมีเงินลงทุนในระดับที่สูง ประเทศมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำ การว่างงานต่ำ และเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทุกเดือน โดยคาดว่าปีนี้น่าจะมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง
"รัฐบาลก็คงดำเนินการต่อเนื่องในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะการส่งเสริมธุรกิจ และปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการทำธุรกิจของต่างชาติ ซึ่งเรามีความตั้งใจที่จะทำสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้ไทยเติบโตอย่างมั่นคง และหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง"นายอภิศักดิ์ กล่าว