พาณิชย์ นำทัพภาคเอกชนไทยเยือนสาธารณเช็ก-โปแลนด์ เกิดการจับคู่ลงทุนรวมกว่าพันลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 27, 2017 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำคณะภาคเอกชนชั้นนำของไทยเยือนสาธารณรัฐเช็กและสาธารณรัฐโปแลนด์ เพื่อแสวงหาโอกาสและขยายการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น ตามนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ (Outward Investment) ของรัฐบาล โดยภาคเอกชนที่ร่วมคณะต่างพึงพอใจผลสำเร็จของโครงการ เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ และได้พบปะกับพันธมิตรธุรกิจที่มีศักยภาพ สามารถจับคู่การลงทุนมูลค่ารวมกว่า 1,010 ล้านบาท

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 และเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ มีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นทั้งการบริโภคภาคครัวเรือนและการลงทุนที่สำคัญ ภาคเอกชนไทยจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของเช็ก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเชิงนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ในขณะที่ธุรกิจด้านสินทรัพย์ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม เป็นธุรกิจที่มีโอกาสและคาดหวังผลกำไรได้

การเยือนสาธารณรัฐเช็กครั้งนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมเจรจาการค้า เพื่อเจาะตลาดการร่วมทุนระหว่างภาคเอกชนไทยและเช็ก โดยมีหน่วยงานด้านการลงทุน องค์กรภาคอุตสาหกรรมของเช็ก หอการค้าเช็ก-ไทย และภาคเอกชนเช็กเข้าร่วมอีกกว่า 30 ราย สรุปมูลค่าการแสวงหาการลงทุนได้ถึงกว่า 997 ล้านบาท ประกอบด้วย การลงทุนด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ ยานยนต์ ยางและผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดตั้งสำนักงานในสาธารณรัฐเช็ก เป็นต้น นอกจากนี้คณะได้เข้าพบและหารือเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐเช็ก เยี่ยมชมสโกด้าออโต้ (Skoda Auto) และบริษัท TRCZ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก

ด้านการเยือนสาธารณรัฐโปแลนด์ คณะได้ร่วมเยี่ยมชมสถานประกอบการและหารือกับหน่วยงานเขตเศรษฐกิจพิเศษ (PSEZ) ทำให้ทราบถึงจุดแข็งของโปแลนด์ในเรื่องต้นทุนการผลิต ทักษะภาคแรงงาน ตลอดจนที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใจกลางทวีปยุโรป ซึ่งเหมาะสมต่อการเป็นฐานการผลิต รวมถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน คือ การเลือกสถานที่ลงทุนที่มีความเหมาะสมกับยุโรปในราคาต้นทุนของเอเชีย โดยในส่วนของการสนับสนุนการประกอบธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษของภาครัฐโปแลนด์ เอกชนสามารถยื่นขอความช่วยเหลือจากภาครัฐได้ทั้งในรูปแบบของ Cash Support และ Tax Exemption อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจำเป็นต้นได้รับใบอนุญาตก่อน

"จากการจัดกิจกรรมพบปะเจรจาระหว่างภาคเอกชนไทยกับภาคเอกชนโปแลนด์กว่า 30 ราย ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล เครื่องจักรไฟฟ้า ยางและผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และธุรกิจร้านอาหารไทย ส่งผลให้เกิดการลงทุนที่เป็นรูปธรรมรวมกว่า 13 ล้านบาท"อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว

นอกจากนี้ คณะยังได้รับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานด้านการค้าการลงทุนของโปแลนด์ (Polish Investment and Trade Agency) และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ในโปแลนด์และยุโรป อีกทั้งคณะได้มีการหารือถึงการลงนาม MOU ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับ Polish Investment and Trade Agency เพื่อส่งเสริมให้เกิดการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น โดยฝ่ายโปแลนด์ได้เสนอให้มีการจัดตั้งสำนักงานด้านการค้าการลงทุนของโปแลนด์ในประเทศไทยภายในปี 2561 อีกด้วย

สำหรับธุรกิจบริการ อาทิ ธุรกิจร้านอาหารในกลุ่มตลาดประเทศ Visegrad Four V4 (ประกอบด้วย สาธารณรัฐเช็ก, สโลวัก, ฮังการี และโปแลนด์) ภาคเอกชนไทยควรมุ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภคระดับบนหรือร้านอาหารแนว Fine Dining เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากประชากรมีรายได้ประชาชาติต่อหัวสูงถึงประมาณ 12,375 - 18,579 เหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศดังกล่าวเดินทางไปท่องเที่ยวในแถบเอเชียมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความคุ้นเคยกับอาหารเอเชียเพิ่มขึ้น การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพิจารณาการลงทุนกิจการอาหารในกลุ่มประเทศ V4 จึงนับเป็นการตอบสนองอุปสงค์ของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ การค้าระหว่างไทยและสาธารณรัฐเช็ก ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 362.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็น ไทยส่งออกไปยังเช็ก 281.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าจากเช็ก 81.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญอันดับต้นๆ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และด้ายและด้ายเส้นใยประดิษฐ์

ด้านการค้าระหว่างไทยและสาธารณรัฐโปแลนด์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 308.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็น ไทยส่งออกไปยังโปแลนด์ 186.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าจากโปแลนด์ 122.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญอันดับต้นๆ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ